เที่ยวแบบประหยัด ไปตรัง เที่ยวทะเลได้รูปเริดๆ จองเรือ รับในเมือง ปากเมง
ค่าใช้จ่าย
เครื่องบิน ประมาณ 500.- ไปกลับ
โรงแรม 3-4 ดาว ระมาณ 600.-
รถตู้รับส่งสนามบิน
วันที่ 1 เดินทาง
เดินทางจากสนามบินดอนเมืองไป สนามบินตรัง แล้วนั่งรถตู้รับส่งสนามบินไปโรงแรม เดินเล่นรอบโรงแรม หรือหาที่เที่ยวใกล้เคียง พักผ่อน เพราะต้องออกเดินทางไปเกาะแต่เช้า
วันที่ 2 ทัวร์ถ้ำมรกต
รถมารับที่โรงแรม ไปขึ้นเรือที่ปากเมง เพื่อที่จะเดินทางไปทัวร์ถ้ำมรกต ซึ่งจะพาไป 4-5 เกาะ เกาะเชือก ถ้ำมรกตเกาะกระดาน กลับถึงโรงแรมตอนเย็น
วันที่ 3 ทัวร์ เกาะรอก เกาะห้า
ไปเกาะรอก เกาะห้า ที่สวยงามที่สุด สวยเทียบเท่าสิมิลัน
ใครที่มีธุระเดินทางกลับสนามบิน รอบดึกสุด แต่ VietJet มักเลื่อนตั๋ว งั้นนอน 1 คืน เพื่อไม่ให้รีบจนเกินไป
วันที่ 4 เดินทางกลับ
เช็คเอาท์และเรียกรถตู้มารับไปสนามบิน เดินทางกลับดอนเมือง
ทะเลตรัง ประตูสู่อันดามัน
Trang sea
จองเรือ
ทะเลตรัง
เรือใหญ่
฿800
เที่ยวตรัง ฝนตก
คิดว่าน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เที่ยวทะเลใต้ที่ไม่ใช้ภูเก็ต และครั้งนี้น่าจะจบอยู่ที่ตรัง เป็นทริปไปเกาะรอกและหลีเป๊ะแบบจบ one day ซึ่งถ้าไป 2 ที่นี้แล้วก็ถือว่าไปมาครบทุกที่สำหรับแพม ในฝั่งทะเลอันดามัน
ทริปนี้มาเที่ยว 4 วัน ออกทะเล 2 วันเต็ม
วันแรก
เกาะรอก เกาะห้า
เกาะรอกเขาบอกว่าสวยมาก สวยกว่าหลีเป๊ะ สวยกว่าหรือเท่ากันกับสิมิลัน เพราะเป็นทะเลนอกเหมือนกัน อะไรที่ไกลๆ คนไปยากจะสวย และขึ้นชื่อเรื่องดำน้ำตื้นสวยมาก
ถ้าเรามาตรัง เรือส่วนใหญ่จะออกไปเกาะรอกอย่างเดียว ไม่ได้ไปเกาะห้า เพราะเกาะห้าจะไกลไปอีก และมีบางเจ้าที่ไปเกาะห้าด้วย แนะนำเพราะเกาะห้าก็สวยมาก
ถ้าหากเรามาเที่ยวทะเลตรังแล้ว ระหว่างนั่งเรือจะเห็นเกาะรอก ถ้าเรามองดีๆ จะเป็นลางๆ แทบจะไม่เห็น ต้องเพ่งดีมากๆๆๆ ถึงจะเห็น จะเป็นเกาะตั้งอยู่โดดๆ อันเดียวเลย
รีวิวเป็นความคิดเห็นที่สามารถนำไปปรับปรุงการการให้บริการได้ ทริปนี้จองกับ Love Andaman ราคา 1700 มีค่ารถรับ 200 แต่จองจริงจะได้ 300 นะ แพงกว่าจาระวีย์ คิดแค่ 100 บาท เป็นรถของจารวีย์มาเลย
ไปท่าเรือ
รถนัด 8.05 รถมาถึง 8.20 รถเก่าหน่อย คนขับไม่คาดเข็มขัด เสียงเตือนเข็มขัดนิรภัยมาเป็นช่วงๆ ตลอดทาง ว่าจะงีบสักหน่อย เดินทางไปปากเมง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ถึงท่าเรือ
ทริปพรีเมี่ยม แต่ได้เสียเงินเช่าผ้าเช็ดตัว น่าจะมีให้เลยเหมือนทริปพรีเมี่ยมเจ้าอื่นตอนไปสิมิลัน เกาะสุรินทร์ หรือคาตามารันเกาะเฮ ที่มีผ้าเช็ดตัวขึ้นมาบนเรือเลย เพราะยังไงก็มาเที่ยวด้วยกัน ไม่ได้หายไปไหน
ดีใจที่ได้ไกด์นุ่น นางเพิ่งเรียนจบ มาเป็นไกด์ เป็นคนบ้านเดียวกันจ้า ถ่ายรูปให้ตลอดทริป ดูแลดีมาก และไกด์พิมพ์ก็ดูแลดี
วันต่อมา ตอนแรกว่าจะไปหลีเป๊ะ แต่กลัวท้องฟ้าไม่เป็นใจ เลยไม่ได้ไป ไปทะเลตรังแทน สรุปทะเลตรังได้เที่ยวครึ่งวัน อีกครึ่งวันคลื่นแรง ได้นั่งเรือกลับ แต่หลีเป๊ะที่เขาไปกันน้ำได้ตลอดทริป มีคลื่นแรงตอนขากลับ เรือเสียกลางทาง จึงได้เอาเรือลำใหม่ไปรับลูกค้า ถึงฝั่งประมาณ 19.00 เสียดายน่าจะไปหลีเป๊ะ
ขากลับ เงินค่ามัดจำ 500 และผ้าเช็ดตัว 100 ที่จ่ายเป็นเงินสด ทาง Love จะโอนคืนให้ไม่ได้จ่ายเป็นเงินสดตอนกลับขึ้นฝั่ง เหมือนตอนไปสิมิลันกับ Sea Star ซึ่งจะต้องใช้เวลาหน่อย ไม่ได้ทันที ต้องใช้พลังงานหน่อย เพราะ Love ตอบช้า
เที่ยวตรังครั้งแรก – เที่ยวทะเลตรัง สวยกว่าที่คาดไปมาก
ตรัง ประตูสู่อันดามัน
ทริปนี้แพมมาคนเดียว ติดอยู่ว่าจะมาดีไหม เพราะจองไว้ 4 วันออกทะเลได้ 2 วัน และมีโอกาสเรือไม่ออกสูง เพราะนักท่องเที่ยวน้อย ทะเลอันดามันที่หลายคนนึกถึง เรียงตามลำดับความฮิต ก็จะมีภูเก็ต กระบี่ พังงา สตูล (หลีเป๊ะ) ระนอง และตรังที่ไม่ไว้ท้ายสุด แต่หลายคนรวมถึงเพื่อนบ้านก็บอกว่าทะเลตรังสวย ที่ขึ้นชื่อสุดคือ ถ้ำมรกตและเกาะรอก
อยากไปเกาะรอก แต่เรือไม่ออก อยากไปหลีเป๊ะ แต่เรือไม่ออกเหมือนกัน เลยได้เที่ยวทะเลตรัง 1 วัน แบบเรือทัวร์ แทน ทริปนี้แพมจะได้เน้นชมวิวบนเรือเบาๆ พี่ที่ขายตั๋วบอกว่า คนเที่ยวน้อย เรือทัวร์คนก็จะน้อยไปเยอะเลย ไปแบบสบายๆ
แพมเดินทางถึงสนามบินตรัง พักในเมืองตรัง การเดินทางจากสนามบินไปโรงแรมปกติแล้วจะมีรถ mini bus รับส่ง เที่ยวละ 90 บาท แต่ตอนนี้ปิดกิจการแล้ว เพราะนักท่องเที่ยวน้อยมาก จึงคิดไว้เป็นการใช้ Grab แทน เพราะเช็คแล้วแค่ 100 บาท
สรุปมาถึงสนามบิน มีรถเข้าเมืองเลยถามพี่เขา ว่ารถมีตลอดไหม พี่เขาบอกมีตลอด ทำมานานแล้ว ใครมาเที่ยวตรัง มีรถจ้า ไม่ลำบาก อิอิ
มาเที่ยวตรัง ที่นี่แพมจองทัวร์แบบ one day trip เหมือนที่ไปทะเลใต้อื่นๆ ที่นี่รถรับส่งเพิ่มเพียง 100 ดังนั้นไม่ต้องเช่ารถก็ได้
วันที่ 1
เนื่องจากผู้คนเดินทางน้อย เที่ยวบิน AirAsia ก็จะมีแค่ 1 หรือ 2 เที่ยวบินต่อวัน วันแรกแพมเดินทางและพักที่โรงแรม เพื่อรอทริปไปทะเลตรัง โรงแรมที่นี่ราคาถูกมาก ราคาประมาณ 300-1000 บาท มีตัวเลือกไม่มาก แพมเลือก Hop Inn ตรัง ราคาคืนละ 700 บาท เป็นครั้งแรกที่ได้พัก Hop Inn เข้ามาครั้งแรก ห้องเล็กมาก แบบญี่ปุ่น เล็กกว่าญี่ปุ่นอีก อิอิ ไม่มีไดร์เป่าผม แต่ยังดีที่โทรไปถาม ไปยืมได้ข้างล่าง มัดจำ 100 บาท
วันที่ 2
ทะเลตรัง เรือหางยาว 850 บาท ดีใจเพราะถ้าคนเยอะจะได้ไปเรือใหญ่ ตอนนี้คนน้อยเลยอาจได้นั่งเรือหางยาว ซึ่งจะเร็วกว่าและ private กว่า
รถมารับที่โรงแรม เดินทางทั้งหมด 3 คน เลยถามว่าคุ้มไหม คนขับบอกไม่คุ้มหมดเลย ทั้งค่ารถ ค่าเรือ ค่าทัวร์ ใช้เวลาเดินทางไปท่าเรือบางเบน 40 นาที
เดินทางมาถึงท่าเรือ
ท่าเรือบางเบน น้ำใสมาก นิ่งมาก น้ำสวยเล่นได้เลยจริงๆ เสียดาย ขาดความสวยงามนิดหน่อยเพราะสิ่งปลูกสร้าง ท่าเรือที่สร้างมาใหม่ที่ยื่นไปในทะเล อนาคตน้ำอาจจะไม่ใส อยากให้เป็นเหมือนท่าเรือนพรัตน์ธารา ที่เรือจอดหน้าหาดเลย เป็นธรรมชาติสวยที่สุด
สรุปคือ ท่าเรือ มีไว้สำหรับเรือลำใหญ่ แบบ 2 ชั้นที่ต้องใช้ท้องน้ำขั้นต่ำ 1 เมตร เพราะเรือมีจุดศูนย์ถ่วงอยู่ใต้ท้องเรือ ถ้าเรือเกยหาด เรือจะเอียง
ออกเดินทาง
ทานข้าวเข้าที่ท่าเรือ และเดินทางสู่ถ้ำมรกตโดยเรือทัวร์ ไกด์ที่นี่อาจดูเงียบๆ แต่ถ้าเข้าไปคุยด้วย ก็จะคุยเยอะ คุยดีเลย ดำน้ำทุกที่ไกด์ลงด้วยตลอด ให้ถ่ายรูปให้ได้ ไม่เหมือนที่กระบี่ เราลงน้ำแต่ไกด์จะไม่ลงด้วย
ไปถ้ำมรกต ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที ตอนแรกได้นั่งเรือชั้นเดียว แต่วันนี้เดินทางกัน 16 คน เลยเสียเวลาเปลี่ยนเป็นเรือ 2 ชั้นอยู่ประมาณ 30 นาที เรือ 2 ชั้นมีสไลด์เดอร์ชั้นที่ 2 ด้วย แต่รู้สึกเรือเดินทางช้ากว่าหางยาวหน่อย
ระหว่างนี้เลยถามเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม น้ำใสไหม พี่เขาบอกไม่ใสเท่า เพราะมันเป็นแอ่งเข้าไป ถ้าแอ่งที่น้ำทะเลไม่ไหล แล้วขัง จะขุ่น และถ้าจะให้สวย ต้องไปตอนน้ำขึ้น เพราะสะพานจะได้ลอยขึ้น น้ำแห้งจะไม่สวย
ถึงเกาะมุข
ดีใจที่มีน้องอุ๊บอิ๊บ ผู้ช่วยไกด์ นักศึกษาฝึกงาน ถ่ายรูปให้ทั้งทริป น้องน่ารัก ดูแลดี เล่นน้ำด้วยทุกที่
ถึงถ้ำมรกต
ถ้ำมรกต เป็นส่วนที่อยู่ในเกาะมุข เป็นไฮไลต์ของทริปนี้ เห็นทางเข้าปริ่มน้ำมาก แบบว่าหัวอาจชนได้ ไกด์บอกข้างในแคบกว่านี้ ตายแล้วเรายิ่งกลัว แพมเป็นคนไม่เคยเข้าถ้ำอยู่ แต่ทุกคนก็ไปกันหมดเลย แพมก็เลยไปด้วยสู้ๆ เพราะคิดอยู่เลยได้ไปทีหลังเพื่อน ไกด์บอกว่ายน้ำลอดถ้ำประมาณ 10 นาที
พอเข้าไป ในถ้ำสวยมาก อาจเป็นครั้งแรกด้วย มันดูแปลกตา มีค้างคาวด้วย แต่ตรงนั้นจะเห็นขี้ค้างคาวหน่อย อย่าเงยหน้าอ้าปากนะ เพราะมันจะขี้ใส่ปาก
ระหว่างมืดตึดตื๋อ แพมอยู่ข้างหลังมองไป มืดสนิท ไม่เห็นอะไรเลย จับคนข้างหน้าไว้อย่างแน่น ชื่อพี่เดียร์ ไกด์จะอยู่กลางๆ แถว มีไฟฉาย ดีที่มีอุ๊บอิ๊บว่ายอยู่ข้างๆ
ถึงหาดในถ้ำมรกต
พอใกล้ถึงหาดจะเห็นแสงตรงปลายถ้ำ ดีใจ ที่หมดเวลาอยู่ในความมืดแล้ว ตรงนี้ไม่เห็นปลาเลย เป็นน้ำใสๆ ทรายสีน้ำตาลละเอียด แต่ไม่ขาว อย่าลืมเอากล้องมือถือ หรือกล้องที่มีเลนส์ ultra wide ไปด้วยนะ เพราะเราต้องถ่ายขึ้นไปมุมสูง จะเห็นต้นไม้ล้อมรอบเป็นรูปหัวใจ แพมเอากล้องไปตัวเดียว ไม่เห็นแบบที่ว่าเลย อยู่ประมาณ 30 นาทีเพราะเป็นหาดเล็กๆ เล็กมาก แต่สวยอยู่
ขากลับกำลังถ่ายรูปอยู่ แปปเดียวคนต่อแถวเต็มล่ะเหลือแพม ได้อยู่ข้างหลังอีกล่ะ ยิ่งกลัวๆ อยู่ เพราะในหาดไม่มีใครล่ะ นักท่องเที่ยวน้อย นักท่องเที่ยวไพรเวตก็ไม่ล่ะ เมื่อกี้ เรือทัวร์ที่มาก็มีลำเราลำเดียว เกาะแน่นกว่าเดิมอีกจ้า
ไกด์พี่แบงก์บอก ถ้าเข้ามาแบบไม่มีไฟฉาย ตอนขาออก ให้ชิดซ้ายไว้ เพราะด้านขวาจะไปติดส่วนที่เป็นทางตันที่เป็นเวิ้งเข้าไป พอดีถึงขาออกก็เห็นแสงปลายถ้ำ ดีใจ รีบว่ามาเลย ตรงนี้คลื่นที่แรงหน่อย แล้วก็ออกเดินทางต่อไปเกาะ
ถึงเกาะกระดาน
หาดที่สวยที่สุดของตรัง หาดที่เป็นไฮไลต์ น้ำใส และมีต้นไม้ล้ม ต้นหูกวางให้ถ่ายสวยๆ ล้มจากธรรมชาติเพราะลมพัด และล้มแล้วยังไม่ตาย ในงอกกิ่งใหม่ออกมาสวยๆ
ดีใจวันที่ไปไม่มีใบไม้ เพราะก่อนหน้าวันที่ไปสิมิลันกับเกาะไข่ต้นหูกวาง ทิ้งใบร่วงลงน้ำ เลยไม่สวย
แต่ที่เกาะกระดาน ต้นหูกวางทิ้งใบเรียบร้อย จะมียอดใหม่สวยๆ พร้อมดอก เป็นช่อๆ ดูสวยมาก ครั้งแรกได้ถ่ายรูปกับชิงช้า ที่ด้านล่างเป็นพื้นน้ำสวยๆ อยู่ตรงนี้ 1 ชม.ถ่ายรูปได้แปปเดียว ยังไม่ได้เล่นน้ำเลย ก็ได้ขึ้นเรือเดินทางต่อไปดำน้ำที่เกาะกระดานนี้แหละ
ดำน้ำเกาะกระดาน
ตอนแรกนึกว่าจุดดำน้ำน่าจะเป็นหลังเกาะ แต่นี่ขับเรือออกมาจากหาด และเยื้องไปนิดเดียว ก็ได้ดำน้ำแล้ว
เราดำน้ำหน้าหาดเลย มองไปเห็นหาดน้ำใสมาก แต่จะมีแนวปะการังขนาดใหญ่มาคั่น เพิ่งเคยเห็น เพราะจุดดำน้ำที่อื่นส่วนใหญ่จะเป็นแบบเกาะที่ไม่มีหาด อาจมีทรายใต้พื้นน้ำ ให้เห็นน้ำใสๆ หรืออาจดำน้ำหน้าหาด แต่ปะการังเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่อลังการ ไม่ได้มีสีสันขนาดนี้
เราต้องระวังหอยเม่นด้วยนะ เพราะมันมองไม่เห็น เป็นครั้งแรกที่เคยจับปะการัง แต่ไม่ได้ตั้งใจนะ เท้าไปโดน มองไม่เห็น เลยรู้ว่าที่เป็นสีๆ แล้วก็ไม่ได้พริ้วไปกับน้ำ แข็งแบบหินเลย
ดำน้ำเกาะเชือก
ตรงนี้สวย แต่มืดไปหน่อย แต่ก็สวยมาก น้ำใส ปะการังแตกต่างจากทุกจุดที่เคยดำน้ำมา มีปลานีโม่ เหมือนหมู่เกาะสุรินทร์เลยด้วย แต่เห็นแค่กอเดียว ดอกไม้ทะเลและปลานีโม่ตัวใหญ่มาก และเป็นครั้งแรกที่เห็นกัลปังหา มีทั้งกัลปังหาสีแดง สีเหลือง สีขาว และกัลปังหาหวาย ที่อื่นดำน้าตื้นมาหลายที่แพมยังไม่เคยเห็น เป็นคล้ายๆ ต้นไม้ เหมือนในสารคดีที่เขา Scuba Driving เลย
ดำน้ำเกาะแหวน
มาถึงตรงนี้แมงกะพรุนเยอะมาก แต่เป็นแบบที่กินได้ไม่มีพิษ เวลาเราจับ ให้จับหัวมัน อย่าไปจับสาย ถึงแม้ไม่มีพิษ ถ้าโดนสายมันก็จะคัน ดำน้ำไปมา เจอแมงกะพรุนอยู่ข้างหน้า ตกใจอ่ะ บางทีมันมาโดนเรา ตกใจเป็นวุ้นๆ ยังไงไม่รู้ กลัวอ่ะ
ดำน้ำที่ตรังทุกที่ มีแตนทะเลเยอะมากเหมือนที่หมู่เกาะสุรินทร์เลย คิดว่าคงจะอุดมสมบูรณ์มาก ตอนดำน้ำแสบๆ แต่พอมาถึงห้องเป็นตุ่มเต็มตัวเลย น่าจะเป็นผลจากฉีดสเตียรอยด์คราวก่อนที่โดนคุ่นทะเลกัด เพราะตอนไปเกาะสุรินทร์ก็แสบทั้งตัว แต่ไม่แพ้
ขากลับคลื่นแรง เพราะลมเริ่มมา เพิ่งรู้ว่าคลื่นก็พัดออกจากฝั่งได้ เพราะมันไปตามลม
ถึงท่าเรือปากเมง
เราเห็นน้ำใส เห็นพื้นน้ำ เลยถามไกด์ว่า หาดมันตื้นขนาดนี้เลยหรอ คือมันตื้นมาก จากฝั่งมาเป็นกิโลเมตร ยังตื้นอยู่เลย ไกด์บอกยืนถึง แต่เรือจะผ่านไปช่วงที่เป็นร่องน้ำลึก ซึ่งสังเกตได้จาก ที่เขามีป้อมเรียงกันไป ต้องไปตามนั้น แต่ที่ว่าลึกก็ลึก 1.5 เมตรประมาณ ณ ตอนนั้นนะ
พอถามปุ๊บ เรือก็เกยตื้นเลยจ้า เข้าไม่ได้ พัดน้ำแถวนั้นจากใสๆ เป็นขุ่นเลย อิอิ เลยได้เรียกเรือหางยาวเข้ามารับ ส่วนเรือใหญ่ก็จอดค้างตรงนั้นเลย รอจนกว่าน้ำจะสูงขึ้นหน่อย ถึงจะไปที่ท่าเรือได้
ทริปนี้คุ้มเวลากว่าที่อื่น เพราะถึงฝั่งเกือบจะ 18.00 แล้ว ถือว่าได้ใช้เวลาชมบรรยากาศได้เต็มที่ ในขณะที่อื่น บางที 14.30น ก็ถึงฝั่งแล้วก็มี แล้วแต่เวลาที่ออกเรือด้วยแหละ ถ้าออกเร็วก็ได้กลับเร็ว
ระหว่างกลับ พระอาทิตย์กำลังตกดินสวยมากๆ เสียใจ น่าจะมานอนที่ปากเมง ได้ดูพระอาทิตย์ตกทุกวัน ได้เดินเล่นหาด ได้เล่นน้ำไปด้วย ซึ่งวิธีเดินทางก็จะลำบากกว่า
หากใครอยากพักที่ปากเมง วิธีที่ง่ายต่อเช่ารถมา ถ้าเหมารถไปปากเมงจากสนามบินคิด 700 แต่ถ้านั่งรถจากสนามบินไปลง บขส ใหม่ เสีย 90 บาท และไปต่อรถตู้ที่นั่นอีก 60 บาท แต่ปัญหาคือจะอยู่ที่ขากลับ เราต้องเผื่อเวลาเยอะหน่อย เพราะรถตู้ขากลับ คนจะน้อย รอบอาจจะน้อยมาก เป็นไปได้ ขอเบอร์คนขับรถตู้ไว้เลย
วันที่ 3
รอลุ้นว่าเกาะรอกจะมีเรือออกไหม อยากไปเกาะรอกมาก เพราะสวยมากเขาบอก สวยเท่ากันกับสิมิลัน และปะการังสวยกว่า
ถ้าเราออกเรือไปเกาะรอกจากภูเก็ต จะได้ไปเกาะห้า แต่ถ้าออกเรือจากตรังจะไม่ได้ไป แต่ถ้าซื้อของอีกทีเจ้าก็มีๆ ไป ราคาห่างกันนิดเดียว
วันที่ 4
เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ขากลับ รอรถมารับ 7.30-8.00น. Lobby ของโรงแรม บอกรถตู้ชอบลืม เราต้องโทรตามด้วย โทรตามไป 3 ทีตอน 8.00น. ท้ายสุด เอารถเก๋งป้ายเขียวมารับบอก 5 นาทีถึง แล้วอีก 10 นาทีก็มา ดีใจได้ขึ้นเครี่องได้ทันเวลา
เกาะกระดาน สวยมาก วิวดี ที่สุดของทะเลตรัง
OMG ปลาฝูงใหญ่มาก จริงๆ เห็นได้ทั่วไปเยอะมาก แต่หลายคนไม่สังเกต เพราะถ้ามองจากข้างบน มันเหมือนหิน แต่ถ้าเราดูดีๆ มันจะเคลื่อนที่ไปมาได้ แพมเห็นบ่อยเกือบทุกหาดที่เคยไป ล่าสุดไปเกาะเฮ มันพัดมาอยู่ใกล้ๆ ฝั่งเลย คนที่ฝั่งแทบไม่เห็นว่าคืออะไร บางทีน้ำมันสะท้อนไปกับแสงแดด หลายคนเลยไม่สังเกต
เกาะกระดาน ที่สุดของทะเลตรังKradan Island, Trang