Aomori Prefecture | Apple

Hirosaki Station
1hr
Hirosaki Castle
Light up
Hirosaki Apple Park
Yayoinosato Observatory

อาโอโมริ เมืองแอปเปิ้ล

ตลาดปลา อะโอะโมะริ

furukawa-fish-market

อะโอะโมะริ ในมุมมองของแพม เนื่องจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน ก่อนไปให้กินตำบักหุ่งทุกวัน จะได้สดชื่น เพราะอาหารที่นั่นเป็นคนละแบบกับบ้านเรา

อาหาร​ญี่ปุ่น​ไม่​อร่อย​นะสำหรับแพม อาหาร​สด คือ​อาหาร​ดิบ

อาจจะกิน​เบา​ๆ ได้ ไป​หา​กิน​ตลาด​ปลา ทุก​อย่าง​ดิบ​หมด แล้ว​แพง​มาก อาหาร​กิน​ตรง​ไหน ราคา​เท่า​ๆ กัน กิน​ได้​หมด แต่​อาหาร​ทะเล​ใน​ตลาด​ปลา มัน​จะ​ดู​แพง เพราะ​มัน​สด​เกิน แต่​ไม่​แพง​มาก กิน​ได้ จะ​กิน​ใน​ห้าง กิน​ตาม​ถนน สถานที่​ท่อง​เที่ยว ราคา​จะ​เท่า​ๆ กัน

ถ้าให้อร่อย ตาม​ถนน อร่อย​กว่า อันนั้น​สุก ปลา​ทู​ย่าง​ ทั่วทั้งญี่ปุ่นสะอาด​หมด ญี่ปุ่น​สะอาด​มาก​ๆ

ไปที่ตลาดปลา เราตกใจมาก เหมือนเป็นคนละโลก มัน​เป็น​ของ​ดิบเลย ปลา 1 ตัว เอา​มา​ขาย​ทุก​อย่าง​กิน​ดิบ ตั้งแต่ ตับ​ไต​ใส้พุง หัว​ปลา ไข่​ปลา ทั้ง​ตัว​กิน​หมด กิน​กับ​โชยุ ไม่มี​แบบ​น้ำจิ้มซีฟูดแบบบ้านเรานะ ไม่มี

100 เยน ประมาณ 30 บาท

ภูเขาเมเปิ้ลนะกะโนะ

Nakano Momiji Mountain
ภูเขาเมเปิ้ล เมืองนะกะโนะ คำว่า Momiji ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าใบเมเปิ้ลญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี คือ Koyo ทริปนี้ภูเขาเมเปิ้ลเป็นที่ไปยากที่สุดและสวยสุดของทั้งทริป คุ้มค่าที่สุด และอยู่ไกลเมืองที่สุด แต่ก็ยังสามารถไปได้โดยไม่ลำบากโดยรถบัสที่ถึงเลย แต่ใช้เวเลาเดินทางนานสักหน่อยจากสถานีรถไฟ จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไร่เมื่อเทียบกับที่ใหญ่ๆ อื่นๆ และส่วนมากนักท่องเที่ยวก็จะมีแต่คนญี่ปุ่นด้วยกัน ถึงแม้ทั้งญี่ปุ่นจะมีต้นเมเปิ้ล แต่คนญี่ปุ่นก็มักเดินทางมาชมเมเปิ้ลที่นี่ในทุกๆ ปี เพราะเมเปิ้ลที่นี่มีความหนาแน่นมาก ยิ่งความหนาแน่นของต้นเมเปิ้ลเยอะๆ ยิ่งสวย และแน่นจนทั้งภูเขาแทบว่ามีแต่ต้นเมเปิ้ลอย่างเดียวเลย

เที่ยวภูเขาครั้งนี้ หลายภาพใช้มือถือถ่ายเพราะสะดวกกว่าถือกล้องตัวใหญ่ ซึ่งผมใช้ Sony Xperia XZ Premium และได้มุมที่กว้างกว่า และก็ให้สีภาพออกมาดูดีเลยทีเดียวครับ

เข้ามาก่อนเลยจะเจอกับน้ำตก ที่มีต้นเมเปิ้ลมากมายขึ้นรอบๆ น้ำตก และเมื่อเดินข้ามสะพานมา ก็จะมีจุดชมเมเปิ้ลอีกหลายสิบต้น หลังจากข้ามสะพานมาแล้ว

เมเปิ้ลหลายสายพันธ์ุ ตั้งแต่ แดง เหลือง ส้ม และสีทอง พอเดินต่อขึ้นบันไดขึ้นมาปุ๊บ ก็เจอศาลเจ้าก่อนเลยครับ

หลังจากที่ดูเมเปิ้ลจากด้านล่างภูเขาบริเวณทางเข้าแล้ว เราก็รู้สึกว่าสวยมากแล้วนะครับ แต่พอเดินขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงบนภูเขาปุ๊บ โอ้พระเจ้า! คือทั้งภูเขาที่แทบทุกต้นจะเป็นต้นเมเปิ้ล และเป็นช่วงที่พีคสุดของใบไม้เปลี่ยนสีพอดี สวยงามแตกต่างจากด้านล่างมาก พร้อมใบเมเปิ้ลที่ร่วงเต็มภูเขาทั้งสีแดงและสีเหลือง

ขากลับระหว่างทางมีต้นเมเปิ้ลสีสวย รู้สึกว่าเมเปิ้ลที่นี่สีสันจะสวยกว่าปกติ เราต้องมาเดินมาจากสวนประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อมารถบัส สามารถสอบถามตารางการเดินรถได้ เพราะจะมีไม่กี่รอบ แต่ละรอบห่างกันหลายชั่งโมง ดังนั้นเราก่อนเข้าสวนเราต้องเช็คตารางรถบัสขากลับให้ดี และรถรอบสุดท้ายที่เราสามารถไปได้น่าจะประมาณบ่าย 3 คือต้องออกจากสวนแล้ว เพราะกว่ารถบัสจะถึงสถานีรถไฟ กว่าจะเข้าเมืองก็มืดแล้ว

ระหว่างทางก็มีสวนแอปเปิ้ลด้วย เพราะเป็นขึ้นชื่อของเมืองอาโอโมริอยุ่แล้ว ไปไหนนอกจากจะเจอเมเปิ้ลก็เจอแต่แอปเปิ้ล

แพมเจอคนสวนกำลังเก็บแอปเปิ้ลอยู่ เลยขอได้มา 3 ลูก พอทานเข้าไป คือแบบว่าหวานมากเพราะสดจากต้น หวานกว่าแอปเปิ้ลที่ขายตามห้างบ้านเราประมาณ 2 เท่าเลยครับ

ปราสาทฮิโรซากิ

Hirosaki castle
Light Up เมเปิ้ลแดง สวยสุดในญี่ปุ่น หลังจากที่ไปเที่ยวภูเขาเมเปิ้ล ขากลับก่อนเข้าโรงแรมก็เลยมาแวะตรงนี้สักหน่อย ปราสาทฮิโรซากิซึ่งอยู่ในจังหวัดอะโอะโมะริ Aomori แหล่งชมซากุระขึ้นชื่อของญี่ปุ่น แต่ตอนนั้นพอดีว่ามืดมากแล้ว ก็ถือว่ามาชมไฟส่องเมเปิ้ล ซึ่งสวยงามอลังการมาก คือว่าภาพถ่ายแต่ละรูปอาจจะเก็บไม่หมด เพราะต้นเมเปิ้ลอยู่ใกล้และใหญ่มาก ในสวนฮิโรซากิมีความใหญ่มาก ซึ่งในช่วงปลายปีก็มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมเช่นกัน ในคราวนี้เนื่องจากมาถึงปราสาทตอนมืด แพมจึงได้เดินชมเฉพาะในสวนรอบๆ ปราสาท ฟรีจ้า ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งมีความกว้างใหญ่ไพศาล ใช้เวลาเดินเป็นชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะครบรอบสวน

การเดินทางโดยนั่งรถไฟ มาต่อด้วยรถบัสไปราสาท ค่าโดยสารเพียง100 เยนเพราะไม่ไกลมาก หรือจะเดินจากสถานีรถไฟก็ได้เช่นกัน ซึ่งรถบัสตรงนี้จะเป็นแบบ round trip หมายถึงนั่งจากจุดเริ่มต้นแล้วก็จะกลับมาที่เดิมที่เราขึ้นรถ สถานี Hirosaki เมื่อออกมาด้านนอกสถานีก็จะเห็นคนเข้าแถวยาวอยู่ทางซ้ายมือ ตรงนั้นคือจุดรอขึ้นรถบัสที่จะไปยังปราสาทฮิโรซากิ เราสามารถเดินไปต่อแถวได้เลย

ทางเข้าสวยงามมาก ในสวนมีต้นซากุระเยอะมาก ซึ่งใบเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองและใบร่วงใกล้หมดแล้ว ทางเข้าจะมีหลายทาง วันนั้นเราเดินผ่านสวนตอนกลางคืน จึงดูมืดๆ มีคนน้อย แต่เราเดินเข้าไปลึกๆ จะมีจุดชมปราสาทซึ่งตรงนั้นคนเยอะมาก และแสงไฟตระการตา เดินไปเรื่อย เจอกับต้นแป๊ะก้วยยักษ์ ต้นใหญ่มากๆ เดินมาประมาณ 2 กิโลเมตร เริ่มจากบันไดตรงนี้จะมีแสงสว่างมากขึ้น และมีผู้คนเยอะขึ้นเรื่อยๆ จากจุดนี้ไปจะพบกับ Light Up การแสดงไฟประดับที่มีความสวยงามรอบปราสาท ด้วยต้นเมเปิ้ลหลายต้น ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร

Shawa o abiru (ชาวะ โอะ อะบิรึ)
แบบ Japanese bath style
แล้วไปเก็บ เอ้ย.. ไปเด็ด เอ้ย.. ไปชมบักทันกัน

Shawa o abiru = อาบน้ำ
shawa = shower = ฝักบัว = อาบน้ำ
abiru = การอาบน้ำ ไปอาบน้ำ = to bathe, take a shower

เวลาพูด จะไปด้วยกัน
Shawa o abiru
ชาวะ โอะ อะบิรึ

Insutanto ramen (อิงสุแทงโตะ ระเมง)
รีวิวมาม่ารส Chinese chili = พริกจีน = หมาล่า

Insutanto = instant = ทันที, กึ่งสำเร็จรูป
ramen = บะหมี่