รถหลายคันที่ซื้อ ก็เพราะว่าเราชอบคันนี้ ดูจากรูปทรงและคอนเซป เราก็รู้ว่าอยากได้ เอาจริงๆ จองรถไป โอนเงินไปให้เซลล์ตั้งแต่ยังไม่ได้ทดลองขับเลย ทุกคันตั้งแต่ Elantra, Veloster Turbo ล่าสุดแต่เมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว อิอิ Ioniq Electric
คอนเซปที่ชอบคือ รถคันนี้รักโลก ตั้งแต่เด็กเป็นคนที่ชอบเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว พอเห็นรถคันนี้ ไม่ได้ดูระยะทางว่าขับได้เท่าไร่ ซื้อมาก่อนค่อยว่ากันเรื่องนั้น เพราะคนที่เขาทำออกมาขาย เขาคงคิดแล้วว่าขับในเมืองได้แน่นอน ถ้าจะออกต่างจังหวัด ค่อยว่ากัน รถเช่าขับมีเยอะแยะ และจริงๆ แล้ว โควิดนี้ เพื่อนแพมหลายคนก็แทบไม่ด้เที่ยวเลย ก็เลยซื้อเพราะว่ามันเข้ากับเราที่มันเป็นสิ่งที่โลกสมัยใหม่ต้องมี แบบไม่มีมลพิษ และดูล้ำเหมาะกับเราที่ชอบเทคโนโลยี
รถไม่ใช่แค่รักโลกเพราะเป็นเป็นไฟฟ้า ไม่ปล่อยมลพิษ แต่มันยังมีมากกว่านั้น พลาสติกในรถก็ที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล และมาจากพืชธรรมชาติ รวมทั้งสีที่ใช้ด้วยก็สกัดมาจากพืช จริงๆ แล้ว BMW i3 ดูรักโลกกว่า เพราะมีการใช้ไม้ธรรมชาติเข้ามาด้วย แต่ติดที่ว่าแพงไปมาก ถ้าราคาเท่าๆ กัน ซื้อแล้ว เพราะอยากได้อยู่ อีกอย่างเอาจริงๆ เคยขับรถเพื่อนป้ายแดง BMW Series 3 เราว่ามันเฉยๆ มันไม่เข้ากับลักษณะการขับขี่ และโดยรวมคือไม่โอเครสำหรับเรา สั้นๆ คือ เฉยๆ และรถหน้ายาวมาก เลี้ยวลำบาก ก็เลยผ่านแบรนด์นั้นไป ตอนนี้เห็นมีมือสอง ราคาก็น่าซื้ออยู่นะ แต่ดูๆ อีกที มันคันเล็กไป ถ้ารถคันไหนที่แพมจับขับแล้วใช่ ก็คือ ใช่ ตอนนั้นเลย ไม่ต้องไปเรียนรู้ว่าให้ชินกับรถในตอนไหน คือจับแล้วขับได้คล่องตั้งแต่ตอนแรกเลย แต่ถ้ามันไม่ใช่ เวลาเราขับ เราควบคุมรถได้ไม่ตามใจเรา คือเหมือนมันไม่เป็นหนึ่งเดียวกับเรา มันเหมือนจะชนตลอดเวลา ถ้าเรื่องคันเร่งเรียนรู้แปปเดียวไม่มีปัญหา เพราะรถน้ำมันเราต้องกดเยอะถึงจะแรง แต่รถไฟฟ้ากดนิดเดียว เรื่องเบรกก็เรียนรู้แปปเดียว ว่าเบรกลึกหรือตื้น แต่ลักษณะของรถ หรือการสัมผัสพื้นของล้อเราจะรู้เองว่ามันคือคันนี้แหละที่เราต้องการ แล้วเราสามารถเลี้ยวได้คม เข้าโค้งได้แบบไม่หลุดโค้งเลย และส่วนตัวคือชอบรถหน้าสั้น เพราะมันมุดง่ายกว่า
ล่าสุด เอารถไฟฟ้าไปเที่ยวทะเลเกาะภูเก็ต ด้วยค่าชาร์จ 0 บาท ทั้งทริป ไป-กลับ 2000+ กิโลเมตร ช่วงนี้คลื่นแรงมาก พัดขยะขึ้นมาบนฝั่งเพียบ และไม่น่าเชื่อว่าทะเลนอก อย่างเกาะราชา อ่าวปะตก ที่สะอาด ในหน้ามรสุมและในช่วงโควิดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวนี้ จะมีขยะถูกพัดเกยตื้นขึ้นมามากเหมือนกัน เป็นเศษพลาสติก และสงสัยว่าขยะมาจากไหน ทั้งที่เกาะอยู่ไกลขนาดนั้น
ถ้ามาคิดเล่นๆ แต่ละคนอาหารตามสั่งอย่างน้อยวันละ 3 มื้อ หลายคน ซื้อใส่กล่องกลับไปทานที่บ้าน ก็จะเกิดเป็นขยะ ทั้งถุงพลาสติก กล่อง และช้อน ถ้ารวมๆ กันในทุกวัน ในทุกๆ คน ก็จะเยอะมาก
ถ้าเราช่วยๆ กันลดขยะ โดยเริ่มที่ตัวเรา ไม่ต้องรอให้ใครมาบอก หรือเขารณรงค์ หรือต้องทำตามใคร แค่นี้โลกมันก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง แต่ก่อนแพมไม่เคยเที่ยวไหน เลยไม่รู้ว่าที่ท่องเที่ยวสวยๆ เมื่อสมัยก่อน หาดสวยๆ เมื่อ 20 ปีที่แล้วมันเป็นยังไง พัทยาสวยๆ มันเป็นแบบไหน ตอนนี้ เราเห็นความสวยงามเฉพาะทะเลนอก หมู่เกาะต่างๆ ที่อันดามัน ซึ่งตอนนี้เริ่มมีขยะแล้ว ขนาด No.1 อย่าง สิมิลันก็มีขยะ ถ้าเราช่วยกันมันจะกลับมาสวยกว่าที่เป็นแน่นอน
เดี่ยวนี้แพมไปข้างนอกก็ถือกล่องข้าวเปล่าไปด้วย ไว้ใส่อาหาร และแบรนด์แพม PIX ก็ใช้แพคเกจลดขยะ ขวดและกล่อง ที่ขนาดเล็กพอดี เพื่อลดกระดาษและพลาสติกให้ได้มากที่สุด
มาขับรถไฟฟ้ากัน ช่วยกันลดโลกร้อนเริ่มที่ตัวเรา เพื่อคงทะเลสวยๆ
ตั้งแต่ซื้อรถมา มีน้องมาสัมภาษณ์ไปทำวิจัยหลายคน ซึ่งเราเป็นคนนึ่งที่ใช้ Ioniq และรถรุ่นนี้น้องบอกหาคนสัมภาษณ์จริงยากมาก
เหตุผลหลักที่ซื้อ หลายคนคิดว่าเพราะประหยัดค่าใช้จ่าย จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะตอนนี้ซื้อเกือบ 1.8 ล้าน เหตุผลที่แท้จริงเพราะชอบรถแรงๆ ขับสนุก ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่หลายคนอยากได้รถแรงๆ สักคันในชีวิต หมายถึง ออกตัวจากจุดหยุดนิ่งได้ทันใจ และทำความเร็วได้รวดเร็ว ซึ่งมันตอบโจทย์ที่สุด และยังนิ่ง ปลอดภัย เพราะจะเบรกก็มีระบบเข้ามาช่วย ทำให้ชลอรถได้ดีกว่า รถน้ำมันที่ไหลไปข้างหน้าเลย และยังนิ่งเพราะไม่มีการสั่นของเครื่องยนต์ ทำให้ความเร็วสูงปลอดภัยกว่ามาก
ตอนแรกว่าจะซื้อรถสปอต ซึ่งเราก็อยากมีรถสปอตในฝันสักคัน แต่ไม่ตอบโจมย์ เพราะยังไงมันเหมือนไฟฟ้าอยู่ดี ก็เลยได้เอาคันนี้ และด้วยราคาที่เหมาะสมสุดในตอนนั้น และด้วยที่เป็นเจ้าของ Hyundai Elantra กับ Veloster Turbo มาก่อน จึงมันใจว่าอันนี้แหละคือตัวเรา ซึ่งบ่งบอกถึงความทันสมัย ความแรงรวดเร็ว และดู Unique ไม่เหมือนใคร หลายคนนั่งบอกนึกว่านั่งยานอวกาศ
และเหตุผลที่สอง คือ เป็นคนที่เข้าใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมว่า ทุกวันนี้มีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะโรงงานอุตสาหกรรม หรือเพราะคนอื่นๆ เพราะโรงงานอุตสาหกรรม ก็มีระบบบำบัดที่ดี
แต่เพราะตัวเราเอง ที่ใช้ขยะกันอย่างสิ้นเปลืองในแต่วันละวัน ซึ่งรวมหลายๆ คนๆ ทุกๆ วัน ก็เป็นจำนวนมหาศาล คิดง่ายๆ แค่กินข้าว วันละ 3 ครั้ง แค่คนนึ่งคน กินข้าวใส่กล่องโฟม กลับบ้าน วันละ 3 กล่อง ถุงพลาสติกที่ใส่ ช้อนพลาสติก หลายอย่างที่ใช้แล้วทิ้ง ก็เกิดขยะมากมาย
และหลังจากที่ไปเที่ยวทะเลอันดามันมันมาเกือบทุกที่ ไปหลายครั้งด้วย อิอิ ทำให้เรารู้สึกรักธรรมชาติมาก เพราะหาดสวยๆ ในไทย คือสวยจริงๆ ยกตัวอย่างแค่ สิมิลัน ปีเดียว ไป 3 รอบ เกาะราชา เฮ ไปเกือบ 10 รอบ จึงเห็นว่าสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญมาก เพราะหาดมีขนาดเล็ก หาดที่มีการขายของต่างๆ มีการทำธุรกิจ ยากที่จะมีความสวยงาม ไปทุกครั้งจะเจอ พลาสติก เศษแก้ว ขยะชิ้นเล็ก เพียงแค่ 1 ชิ้น ก็ทำให้ภาพโดยรวมเสียไป เช่นถ้า เราเจอเศษแก้ว เราก็กลัวว่ามันจะมีในทราย กลัวไปเหยียบ ไม่กล้าเล่นน้ำ เช่น เกาะไข่ เป็นเกาะขนาดเล็ก เราก็จะเห็นว่ามีขยะทิ้งตามหินต่างๆ โดยเฉพาะเศษแก้วเยอะมาก ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวทำก็น้อย เพราะมาแปปเดียวและหลายเกาะก็ไม่มีมีที่ให้นักท่องเที่ยวพัก
แม้เพียงแต่เกาะสิมิลัน ที่ไม่มีการขายของ ก็ยังมี เศษยางมัดผม กระดาษ พลาสติก ในทราย ก่อนไปไกด์จะอธิบายอย่างละเอียดว่า ห้ามอะไรบ้าง รวมถึงสารกันแดดเคมีที่จะทำลายปะการัง และเมื่อถึงหาดเขาจะมีกิจกรรม ให้เก็บขยะกลับคนละ 3 ชิ้น จะมีโปสการ์ดให้ฟรี ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดี
เกาะที่อยู่ใกล้ฝั่ง ส่วนใหญ่เลยไม่สวยเท่าสิมิลัน จริงๆ แล้ว ทะเลส่วนในก็สวยได้ เช่น ฟรีดอมบีช และบานาน่าบีช ที่คนไปน้อยกว่า เมื่อเทียบกับหาดข้างๆ ความสวยก็ต่างกัน หรือแม้แต่เกาะล้านที่หาดแต่ละหาดสวยไม่เท่ากัน เช่นหาดเทียนที่หันออกไปข้างนอก สวยเทียบเท่าสิมิลัน ส่วนหาดที่หันเข้ามาฝั่ง กลับมีคราบดำๆ ปนหน่อย ขยะที่ทิ้งลงทะเล โดยเฉพาะน้ำเสียจากบ้านเรือน ที่ไม่ผ่านกระบวนการบำบัด ก็ทิ้งลงทะเล โดยเฉพาะเกาะต่างๆ ถ้าไม่ทิ้งลงทะเล น้ำจะไปทิ้งอยู่ไหนง่ายๆ ดูน้ำที่คลองจากบ้านเรือนต่างๆ ที่มารวบรวมกัน ก่อนไหลลงทะเล ดำและน่ากลัวขนาดไหน ซึ่งจริงๆ แล้ว อาจจะมีการบำบัดแต่ก็น้อย
ขยะเหล่านี้ท้ายที่สุด ทุกคนก็ได้รับแบบไม่รู้ตัว เช่น พลาสติกที่อยู่ในทะเล เมื่อย่อยสลาย ท้ายที่สุดจะเป็นไมโครพลาสติก เข้าไปสู้ห่วงโซ่อาหาร ท้ายที่สุด ก็สะสมอยู่ในตัวเราไปจนตาย เพราะเราเป็นห่วงโซ่ชั้นสุดท้าย สะสมอยู่ตามเนื้อเยื่อในร่างกายเรา
ดังนั้น ตั้งแต่มาขับรถไฟฟ้าและไปเที่ยวทะเล ก็ทำให้มุมมองต่างๆ เปลี่ยนไปมากๆ เริ่มที่ตัวเอง
ขับรถไฟฟ้า ซึ่งไม่มีการปล่อยมลพิษ Zero Emission ทำให้อากาศในเมืองดีขึ้นแน่นอน ถ้าทุกๆ คน ช่วยกัน
มีถังขยะรีไซเคิล แยกขยะ
ถือกล่องข้าวไปร้านข้าวห่อกลับมาด้วย
ก่อนหน้านี้ที่รู้สึกว่า การเอาถุงไปซื้อของ Big C หรือห้างต่างๆ ลำบาก เพราะเราไม่รู้ว่าไปตอนไหน ก็ติดถุงไว้ในรถตลอด 2-3 ใบ ไว้ใส่ของต่างๆ ด้วย
และแบรนด์ พิก โบทานิค ที่เราเป็นคนผลิต เป็นเจ้าของแบรนด์ เป็นพรีเซนเตอร์เอง อิอิ แพมก็ออกแบบให้แพคเกจดูรักโลกสุดๆ ตั้งแต่ลดกระดาษและพลาสติก กล่องขนาดเล็กฟิตพอดีสินค้า ทำให้นอกจากลดขยะ ยังลดเรื่องพื้นที่การขนส่ง
และทั้งประชากรเพิ่มขึ้น ทุกคนต่างใช้ทรรพยากรเพื่อความสะดวกสบายของตัวเอง ดังนั้นการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ขยะ และนอกจากนี้ยังเกี่ยวกับแก๊ส CO2 ที่ลดน้อยที่สุดในการใช้ชีวิตของเรา เริ่มต้นที่ตัวเรา การที่เราจะช่วยโลกก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน แพมและแบรนด์พิกจึงลดขยะลงมากที่สุด และก็ภูมิใจที่ได้ช่วยโลก
สักวันนึ่งในอนาคตที่เจริญ ขอให้บางแสนสวยเหมือนเกาะล้าน ที่ไม่มีมลพิษใดๆ เพราะตอนนี้คือเที่ยวทะเลในฝั่งไม่ได้แล้ว ความสวยงามต่างกันเยอะมาก ถึงแม้จะเป็นทะเลใน จะมีเลน อย่างน้อยย้ำต้องใสระดับนึ่ง ที่เราเล่นนน้ำได้ โดยปลอดภัย ไม่มีสารเคมี จริงๆ เรื่องเล่า ไปเที่ยวทะเลมีเยอะมาก ที่แปลกตา เพราะเราอยู่กรุงเทพมาตลอด เจอประสบการณ์ประทับใจมาหลายอย่างมากที่ทะเลใต้ แพมฝากเพจหน่อยน้า
ขอรีวิวรถแปป หลายคนก็อยากรู้ว่ามีปัญหาอะไรไหม หลังจากใช้มา 3 ปีครึ่ง
ณ ตอนนี้ คือ
แบตก้อนเล็กไป ขับแปปก็หมด บางทีชาร์จเต็ม ไปได้ 100km
ระบบล็อกหัวชาร์จ ระบบกลไกลมันพัง ทำให้รถชาร์จไม่ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่
โช้คมีเสียง เปลี่ยนใหม่ ทั้ง 4 ล้อแล้ว
นอกจากนั้น จำไม่ได้ว่าทำอะไรไปบ้าง
แต่ก็ยังรักรถคันนี้ เพราะไม่เหมือนใคร
รีวิวรถไฟฟ้า ซื้อเอง รีวิวเอง
จากวันนั้นที่ซื้อรถ 1.749 ล้านบาท และผ่านมา 2 ปีล่ะ ตอนนี้เห็นราคาแล้วตกใจมาก อิอิ เหลือแค่ 1.111 ล้านเอง เอาจริงๆ ว่า เหมือนโดนตบหน้า ซื้อมาแพง แปปเดียวศูนย์ลดราคาลงฮวบเลย ถ้าศูนย์ไม่อยากให้ลูกค้าเก่าเสียใจ วิธีการง่ายนิดเดียว เอาของขวัญ เช่น ตุ๊กตาหมี หรือบัตรลดส่วนเข้าเช็คระยะให้ฟรี 10 ปี แต่จริงๆ แล้วเช็คระยะก็ถูกมาก 10 ปี หมดไปแค่ 1.2 หมื่น เท่านั้น รถ 1.74 ล้าน อย่างต่ำ น่าจะสมนาคุณ 50,000.- เลยฟรี อิอิ อันนี้คืออย่างต่ำนะ โทรไล่ไปเลยจากฐานข้อมูล คนซื้อมี 10 กว่าคันเอง ที่ซื้อราคา 1.74 ล้าน
เข้าใจว่าเป็นโปร 11/11 แต่ราคาก็ลง เหลือ 1.3 นานแล้วครับ ราคา 1.111 เขียนไว้ 10 คันจริง แต่ราคาขายต่อไปๆ น่าจะราคานี้แหละ โปรไม่ได้มีหนเดียว
และจริงๆ แล้วการที่ศูนย์ลดราคาก็ไม่ใช่ความผิดใดๆ เพราะสามารถทำได้ และในตอนที่ซื้อ เราได้พอใจกับราคานั้นแล้ว อันนี้ก็แค่แนะนำเฉยๆ นะ
แพมซื้อ Hyundai มาคันนี้ ก็คันที่ 4 แล้ว คันแรก Elantra GLE คันที่ 2 ก็ Elantra GLS Navi คันที่ 3 Veloster Turbo และคันนี้ Ioniq Electric และแนะนำเพื่อนอีกใช้ Veloster Turbo และอีกคน Elantra GLS Navi
แต่ส่วนต่างนั้นก็ซื้อ city ได้คันนึงเลย ตบหน้าลูกค้ามากๆ รู้สึกโดนเอาเปรียบ การตลาดแบบนี้ทำให้ลูกค้าเก่ารู้สึกเสียใจ บ้ายๆ รถคันสุดท้ายจาก Hyundai ซื้อยี่ห้ออื่นดีกว่าครับ เพราะตอนนี้อยากเปลี่ยนคัน เป็นคนเบื่อง่าย จากที่ขายยากอยู่แล้ว ทังแบรนด์ + รถไฟฟ้า ตอนนี้ ขายยากกกกกกก ไปกันใหญ่ ต้องขายต่อแบบว่ายกให้ถูกๆ ไปเลย
มาถึงตอนนี้ผ่านไป 2 ปีแล้ว มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างกับรถไฟฟ้า สิ่งหนึ่งคือระยะทางที่ใช้ได้ลดลง จากปกติออกศูนย์ใหม่ๆ ประมาณ 220 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แต่สเปกจริง คือ 280 นะ เป็นปกติ เพราะมันจะจำการขับขี่ของเราว่าขับแบบไหน มาในตอนนี้เหลือเพียง 195 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ลดลงมาหน่อย รถแพมไม่เคยโดนแดดเลย รักษาดีมาก กลัวแบตเสื่อม อิอิ แต่มันก็เป็นปกติของมัน เช็คระยะล่าสุดด้วยคอมพิวเตอร์ แบตปกติดี
ทีนี้จะมีรีวิวว่า รถไฟฟ้า ไม่ต้องเติมน้ำมัน ชีวิตง่ายขึ้น จริงอ๋อ ทุกวันเราต้องมาถอดเงียบชารจ์เอง มันถึงยุคที่เด็กปั๊มไม่ต้องทำงานแล้ว แย่งงานเด็กปั้ม แต่ก็คงอีกนานเลย เพราะไม่มีใครซื้อรถไฟฟ้ากันง่ายเห็นมีข่าวบอกว่า MG ZS EV คนจองเต็ม 1000 คัน ที่แถมแท่นชาร์จ ตั้งแต่เปิดตัว นี้ก็ผ่านมาสักระยะล่ะ ยังไม่เห็นใครขับในถนนเลยนะ คาดว่า รถไฟฟ้าคงต้องรออีกนาน บ้านเราถึงจะเริ่มนิยมใช้กัน ด้วยค่านิยมและราคาด้วย 88kw แบตหมด ขับเบาๆ ปิดแอร์
ตอนนั้นแพมทำไมถึงเลือก hyundai ioniq เพราะด้วยแบตเตอรี่ li ion polymer ที่มีความปลอดภัยกว่า li ion
ตัวนี้จะแบตน้อยกว่า Kona เพราะมันไม่ได้ยกสูง เลยไม่มีที่วางแบตใต้ท้องรถเหมือน Kona ครับ
ทำไมไม่ซื้อ MG
เพราะมีประสบการณ์ไม่ดี กับเซลล์แถวบ้านเป็นทั้งกลุ่มเลยครับ เขาดูว่าประมาณเราเหมือนเด็ก แล้วเราจะขอลองขับ ตอนนั้นไฟฟ้ายังไม่ออก เขาก็เหมือนไม่อยากให้ลอง พูดจาดูถูกเยอะมาก เขาถามว่าจะขับคันไหน ผมก็บอกว่ามีรุ่นไหนบ้าง เขาบอกว่ามีทุกรุ่น งั้นผมขอ MG6 เขาบอกว่าไม่มี แล้วผมก็เลยถามอีกมีรุ่นไหนบ้าง เขาบอกมา GS และ ZS ผมขอ GS กลุ่มเซลล์ทำหน้าไม่รับแขก จะขับคันใหญ่เลยหรอ มันแพงนะ เขาขอเอกสารเยอะมากตอนให้ขับ และให้ขับในโชว์รูม เราก็เลยถามคันนั้นทำไมออกได้ เขาบอกเพราะคนนั้นเขาจองรถแล้ว และพอขับเสด ก็บอกทางให้ผมเดินกลับเลย โดยไม่ขอข้อมูลอะไร โชวร์รูม MG กรุงเทพ สาขาลำลูกกา เซลล์ทั้ง 3 คน นิสัยเหมือนกันเลย
https://www.youtube.com/watch?v=Vuc3nkTJHnY
ตอนนั้นอยากได้รถใหม่ เลยศึกษาข้อมูลหลายๆ ค่าย และด้วยเป็นคนชอบเทคโนโลยีของรถไฟฟ้าที่มีความไม่เหมือนใคร ก็เลยมองหารถไฟฟ้าของหลายๆ ค่าย จนได้มาเจอ Hyundai Ioniq ซึ่งเปิดตัวอยู่นานพอสมควรก่อนจะเข้ามาที่ไทย ซึ่งคิดว่าแพมเป็นคนแรกที่ได้เห็นรถโชว์ Ioniq สีน้ำเงิน ที่ขนผ่านตุ้คอนเทนเนอร์เมื่อวันที่ไปเช็ครถ ซึ่งตอนนั้นใช้ Hyundai Elantra อยู่ ด้วยรถมีความสวยงามและเหมาะกับบุคลิคของเรา จึงศึกษาสเปกและรัวิวในเนตทั้งหมด ตั้งแต่มีตัวโชว์เข้ามา กว่าจะวางขายจริงก็ใช้เวลานับปี ด้วยราคาขาย 1.74 ล้านบาท ก็ถือว่าไม่แพงเลยนะ
โดยส่วนตัวแพมชอบรถที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เพราะสามารถขับได้ง่าย เข้าซอยแคบๆได้ โดยไม่อึดอัด ซึ่งคันนี้ก็คือใช่เลย
สิ่งที่ได้จากรถไฟฟ้าที่แน่นอนก็คือ ความมั่นใจในการขับขี่ สามารถควบคุมได้ดั่งใจ จะเร่งก็เร่งได้ทันที จะหยุดก็หยุดได้เลยแค่ปล่อยคันเร่ง มันง่ายๆ มากๆ เลยครับ แตกต่างจากรถน้ำมันที่เราเคยขับกันไปเลย แต่สำหรับใครที่เพิ่งขับช่วงแรกๆ ก็ต้องฝึกๆ หน่อย จะยังไม่ค่อยชิน โดยเฉพาะตอนถอนคันเร่ง เพื่อนมาขับรถแพมเขาจะบอกว่างงๆ มันดูแปลกๆ ที่เราต้องเหยียบคันเร่งอยู่ตลอดเวลา แต่แพมว่ามันดีมาก คือเวลาเราฉุกเฉิน เช่นมีรถคันหน้ามาปาดเรา เราก็แค่ปล่อยคันเร่ง ไม่ต้องสลับไปเหยียบเบรกให้เสียเวลาเลย มันช่วยมากเลยนะครับ ระยะเวลาในการเบรกจะเร็วมากๆ
อีกอย่างที่เริดก็คือ ได้ที่จอดรถง่าย เพราะเข้าห้างขับไปที่ชาร์จเลย ไม่มีใครมาจอด เฉพาะตอนแรกๆ นะ ตอนนี้เข้าไม่ได้ล่ะ มีแต่รถไฮบริดเสียบปลั๊กมาจอด บางทีแบตเราใกล้หมด ก็เข้าจอดไม่ได้ล่ะ ตั้งแต่ซื้อมาได้จอดที่ชาร์จได้ ประมาณ 5 ครั้ง ที่เหลือชาร์จที่บ้าน
ส่วนมากรถที่ไม่ใช่ไฟฟ้าแท้ไปชาร์จครับ ปกติแล้วขับต่อแบบใช้น้ำมันได้ ส่วนรถไฟฟ้าแท้ไม่ได้ชาร์จ ไปเติมน้ำมันเพื่อขับต่อก็ไม่ได้ เรียบร้อยเลย อิอิ
มีวันนึ่ง เริดอ่ะ รถพรีเมี่ยม ที่จอดมี แต่ รปภ. เรียกให้มาจอดตรงนี้เลยจ้า เอากรวยมาตั้งไว้ให้เลย เดินเข้า HomePro เลย สวยๆ
ล้อแม็ก 16 นิ้ว เป็นลายแบบของรถไฟฟ้าที่ใช้กัน เพื่อลดแรงเสียดทาน ตอนใช้แรกๆ ไม่ค่อยชอบเพราะดูไม่ค่อยหรูเนื่องจากล้อเล้กแต่พอใช้ไปมา รุ้สึกชอบมาก เพราะเวลาล้อหมุนจะดูเหมือนกังหันลม และดูล้ำสมัยมาก
ยางขนาด 205 16 ที่มากับตัวรถ เป็นยางฤดูหนาวที่เมื่อใช้ในบ้านเราที่อากาศร้อน จะไม่ค่อยเกาะถนน และเป็นยางรุ่นประหยัดพลังงานอีก จึงต้องใช้ระยะเวลาเบรกมากหน่อย ผมเลยเอาไปเปลี่ยนพบว่ายางมีให้เลือกน้อย เพราะเป็นขนาดที่ไม่เป็นที่นิยม
ตอนนี้เปลี่ยนใช้เอาล้อ Veloster มาใส่แทน เกาะถนนดีมากครับ
ตอนแรกๆ กลัว ล้างรถแบบอัดฉีด มันจะไม่ซ๊อตใช่ไหม ใช้รถไฟฟ้า กลัวอยู่ 2 อย่าง
1. กลัวน้ำโดนจุดที่สำคัญแล้วรถมีปัญหา
2. ตอนฝนตก ฟ้าผ่า ไม่กล้าออกจากบ้านเลยครับ
การออกตัวสามารถออกจากจุดหยุดนิ่งได้อย่างทันใจ แต่ไม่สามารถเหยียบคันเร่งจนสุดได้ เพราะน้ำหนักรถที่มากถึง 1.5 ตัน ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ทันที จะทำให้ล้อหน้าหมุนฟรี ซึ่งเราจะสังเกตุเห็นเมื่อระบบรักษาเสถียรภาพทำงาน ซึ่งพยายามเบรกล้อคู่หน้าไว้ให้ล้อทั้ง 4 ล้อเคลื่อนที่พร้อมกัน
ความเร็วสูงสุด 165 กม/ชม. ซึ่งเท่านี้ก็ถือว่าเร็วแล้ว ถ้าเราขับรถเร็วขนาดนี้ ก็อันตราย เราไม่ควรเอาชีวิตเราไปเสี่ยง ขับพอดีๆ 100 กม./ชม. พอดีกว่า
อยากให้แบตอยู่นานๆ ก็ต้องไม่โดนแดด เลยออกใช้รถแต่ตอนกลางคืนครับ
มีบางท่านถามมาแบบเกรงใจ ขอถามแบบโง่ๆ เลย แพมเข้าใจว่า คนไม่เคยใช้ก็คือไม่เคยใช้ แต่จริงๆ ไม่ได้โง่แต่เขาไม่รู้ จะรู้ได้ไงว่าแบตเต็ม ไฟมันจะดับเองครับ เปิดประตูมา มันก็จะขึ้น % ให้ดู หรือที่จอที่ฟังเพลงจะเชื่อมกับจอแผงหน้าปัดด้วย เหมือนกับการชาร์จมือถือเลยครับ เพียงแต่ต้องระวังเรื่องกระแส ถ้าสายไฟบ้านเส้นเล็ก น้อยกว่าเบอร์ 2 แค่ชาร์จตัวพกพาที่แถมมากับรถ ก็จะร้อนจนไหม้ได้ อิอิ สรุปคือ ถามได้หมด ไม่ต้องเกรงใจครับ เพราะแพมเป็นคนนึ่งตอนแรกที่งงมากๆ กว่าจะใช้เป็นก็นั่งอ่านคู่มืออยู่หลายวันครับ
ขับรถไฟฟ้าแล้วมีความสุขครับ เพราะเรารู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้โลกน่าอยู่ขึ้น ไม่มีมลพิษ ดูสะอาดมากขึ้น รถก็คันไม่ใหญ่มาก ไม่กินพื้นที่ถนน ให้เกะกะ
ถ้าน้ำมันเฉลี่ย กิโล ละ 2.3 บาท แต่อันนี้ก็ประมาณ กิโลละ 1 บาท ครับ ถ้าจะขับให้ได้เหมือนรถน้ำมัน ขับความเร็วแบบรถน้ำมันใช่ครับ จุดหมายแรกที่ใช้รถไฟฟ้า คือ ต้องการใส่ใจธรรมชาติจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่คำพูด แต่แพมอยากให้มันออกมาเป็นผลจริงๆ หลังจากใช้ก็มีความสุขที่ได้ช่วยโลกครับ
https://www.youtube.com/watch?v=rnbsr6Ahb1Q
ใครที่ต้องการรถไฟฟ้าเพื่อให้ลดค่าใช้จ่ายลง แพมว่าเป็นทางเลือกที่ผิด เพราะด้วยราคาที่สูงกว่ารถน้ำมัน 2 เท่า และการชาร์จแต่ละครั้งก็ไม่ใช่ว่าถูก เพราะรถกินไฟเยอะ ในการชาร์จเข้าแบตเตอรี่ก็มีการสูญเสียไฟฟ้าไปส่วนหนึ่ง กว่าจะเต็มใช่เวลานานถึง 12 ชั่วโมงในการใช้ไฟบ้าน
ระหว่างชาร์จ เต้าเสียบจะร้อนจี๋ เพราะมีกระแสไฟไหลผ่านเยอะ ซึ่งต้องใช้สายไฟเบอร์ใหญ่หน่อย และไม่ควรต่อกับปลั๊กพ่วง
รถไฟฟ้าไม่ได้กินไฟเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านนะครับ แค่มอเตอร์ หากเหยียบจนมิดในช่วงออกตัว หรือใช้ความเร็วสูง ก็กินไฟถึง 88 kW หรือ 88,000 วัตต์ ถ้านึกไม่ออกว่าเยอะขนาดไหน ลองนึกถึงเตารีดไฟฟ้าที่บ้าน สมมุติกินไฟ 880 วัตต์ ก็เท่ากับการเปิดเตารีด 100 ตัวพร้อมกัน ที่ความร้อนสูงสุด เยอะมากเลยใช่ไหมครับ นี่ยังไม่นับรวมระบบแอร์ และระบบไฟฟ้าอื่นๆ
แอร์ก็กินไฟจากแบตเตอรี่ ดังนั้นเราจะเปิดแอร์แรงไม่ได้ เพราะแบตเตอรี่จะหมดเร็ว หรือหากเปิดแรงๆ ก็ยังไม่รู้สึกเย็นฉ่ำเหมือนรถน้ำมัน จะรู้สึกแค่เย็นเฉยๆ แต่ไม่แนะนำให้เปิดฮีตเตอร์นะ เพราะน่าจะกินไฟเยอะ เพราะปกติรถน้ำมันฮีตเตอร์จะเอาความร้อน โดยให้อากาศไหลผ่านเครื่องยนต์ซึ่งร้อนจัด แต่รถไฟฟ้าฮีตเตอร์น่าจะเป็นระบบไฟฟ้าซึ่งคงเปลืองมากๆ
ระบบไฟหน้าเป็น LED เน้นความประหยัดพลังงาน ในขณะที่ Ioniq Hybrid จะใช้ HID ซึ่งไม่เหมาะกับรถไฟฟ้าเพราะกินไฟเยอะ
แผงด้านหน้า วัสดุภายใน ใช้ส่วนผสมจากพลาสติกรีไซเคิลและวัสดุจากธรรมชาติ ทำให้จับดูแล้วแข็งๆ ไม่มีบุนุ่ม ซึ่งเราขับรถเราก็ไม่ได้ไปจับมันอยู่แล้ว ทำไมบางคนชอบบุนุ่มก็ไม่รู้นะ แต่วัสดุของมันก็ไม่ได้แข็งเกินไป จะดูนุ่มอยุ่ แต่ไม่มาก จะดีที่ความทนทานมากกว่า เพระาถ้านุ่มมาก โดนแดดจะแห้ง หด กรอบ แตกได้ง่าย
ระบบอัจฉริยะต่างๆ ก็มาทั้งหมด จริงๆ ถ้าไม่มีระบบพวกนี้ก็ขับได้นะ สิ่งที่ใส่ใจคือ เราควรเลือกรถที่เราชอบในดีไซน์ ชอบในรูปทรงของรถ ขับแล้วมีความสุขทุกครั้งที่ได้จับ ส่วนพวกเรื่องอื่นๆ ก็เป็นทางเล้อกรองในการตัดสินใจ ถ้าชอบก็ซื้อเลย ส่วน Ioniq ก็มาครบแทบจะทั้งหมดของที่มีในตอนนี้ และอาจล้ำกว่าด้วย ยกเว้นจอทัชสกรีนที่มาเล็กหน่อยในรุ่นที่มาขายในไทย และไม่ใช่ตัวที่มีระบบนำทาง
หลายคน คิดว่า ซื้อรถไฟฟ้าจะประหยัดเงินในกระเป๋า แพมบอกเลยไม่จริง ซื้อรถน้ำมันดีกว่าครับ ถึงแม้ ค่าเช็คระยะถูก ค่าไฟถูกกว่าน้ำมัน แต่รถไฟฟ้าราคาก็แพงกว่าอย่างน้อย 2 เท่า ลืมบอกว่าประกันรถ ปีละ 40000 นะครับ จ่ายทีนี่แทบสลบเลย ขนาดไม่มีเคลมอะไร ตอนนี้หาเจ้าที่ถูกแล้ว แต่กว่าจะหาได้ก็ยากอยู่ ส่วนใหญ่ไม่รับด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เราได้คือ การได้สนองความต้องการของตัวเอง ที่ชื่นชอบในเทคโนโลยี และของไอทีต่างๆ และได้ขับก่อนใครเพื่อน
หลังจากที่มีรถไฟฟ้า ก็คิดหาคอนเทนต์ว่าทำยังไงดีจะให้คนรู้จักรถไฟฟ้ามากขึ้น ก็เลยไปรวมกับเพจเที่ยวเลยออกมาอย่างที่เห็นครับ
https://www.youtube.com/watch?v=NB7Lgk3XRCw
จากที่เขียนรีวิวรถไว้ ศูนย์เรียกไปถ่ายแบบเลยครับ อิอิ
ลง Magazine เร็วๆ นี้ ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่านครับ 🥰🥰🥰
คันนี้ ขับไปส่งของได้นะ อิอิ แต่ละสิ่งที่เลือกล้วนประหยัดพังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งรถที่ใช้ แพคเกจขนาดเล็ก สติกเกอร์ที่ดวงเล็ก แต่สินค้าข้างในนั้นดียิ่งกว่ามาก เพราะแพมเป็นคนเลือกของที่ละเอียด คิดแล้วคิดอีกกว่าจะได้แต่ละอย่าง
หลายคนก็ชอบถาม ทุกคนถามหมดว่ากี่ซีซีเวลาต่อประกัน ในประกันจะระบุว่าเกิน 2000 ซีซี แล้วบริษัทประกันก็จะถามว่ากี่ซีซีกันแน่ เราก็บอกว่าไม่มีเครื่องยนต์ ไม่มีว่ากี่ซีซี อิอิคอลเซนเตอร์ก็ต้องโทรมาถามว่า รถคุณมีกี่ซีซีค่ะ เราก็ตอบคำเดิมว่าไม่มีซีซี งั้นขอดูคู่มือรถหน่อยค่ะ ก็เลยต้องหาส่งให้นาง
ตื่นรูปตัวเอง เที่ยวทะเล 10 กว่าทริปต่อกัน จนตัวดำ แต่ไม่แคร์เพราะชอบสีผิวนี้ สเปกฝรั่ง อิอิ ขอบคุณทางฮุนได ที่มอบพื้นที่ดีๆ ให้นางได้มีบทความลง
https://pantip.com/topic/40314107
ปกติชาร์จที่บ้านตลอด แต่ตอนนี้คือได้ชาร์จฟรีกับ EV Station ก็ขับออกมาชาร์จตลอด ไม่ชาร์จที่บ้านเลย อาจไกลหน่อย แต่ถือว่าได้ขับรถเล่นด้วย ไฟฟรีด้วย อิอิ
ต้องจองล่วงหน้าก่อนนะ ถ้าจะ Walkin จะยากมาก ไม่เคยได้ชาร์จเลย ได้ขับกลับไปชาร์จที่บ้านทุกครั้ง เพราะถึงแม้จะตัด นาทีที่ 50 แต่ต้องรอถึงนาทีที่ 15 ว่าคนจองจะมาไหม จอดรถรอก็มีคนมาแทบทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ตอนกลางคืนเพราะไม่ร้อน คนรอชาร์จเพียบเลย คงมีเฉพาะช่วงนี้แหละ ที่มีผู้ใช้บริการเยอะ เพราะเก็บเงินเมื่อไหร่ก็กลับไปชาร์จที่บ้านเหมือนเดิม อิอิ
ถ้าเจอ ZS EV ชาร์จ 90+ แล้ว ไม่ยอมตัด ผมรอแทบใจจะขาด วันไหน Walkin สรุปไม่ได้ชาร์จ เพราะมีคิวต่อไป ขับกลับบ้านแบบ Eco ถึงจะถึงบ้าน 555+ แต่รถผมชาร์จด่วน 95% เข้าต่อไม่ได้แล้ว ระบบตัด ก็ถอยให้คันต่อไป
Leave a Reply