ก่อน covid
เที่ยวใต้ครั้งแรก ดีมาก
ครั้งแรกที่มาเที่ยวภาคใต้ ตอนแรกว่าจะยกเลิกไม่มาแล้ว เพราะไกลบ้านไป ถ้าจะเที่ยวไกลขนาดนี้บินไปเที่ยวญี่ปุ่นดีกว่า แต่เพราะโควิดทำให้ไปเที่ยวนอกประเทศไม่ได้ และขี้เกียจคิดว่าเที่ยวไทยที่ไหนก็เหมือนกัน คงน่าจะเหมือนเขาใหญ่ใกล้บ้าน เอาว่าวันไหนขยันค่อยไปเที่ยวแถวบ้านดีกว่า แต่ก็เพราะจองที่พักเครื่องบินไว้เรียบร้อยก็เลยตัดสินใจเช้าวันนั้น ถ้าตื่นทันแบบไม่มีนาฬิกาปลุก ก็ไปเที่ยวดีกว่า สรุปก็ได้ไปจริงๆ
เมื่อเดินทางใกล้ถึงสนามบินสุราษฎร์ธานีแล้ว เนื่องจากเรานั่งติดหน้าต่าง จึงเห็นวิวต่างๆ มากมาย พอมองไปดูวิวแค่นั้นแหละ ประทับใจตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน คือมันไม่เหมือนที่เราเคยเห็นที่ไหนมาก่อนในชีวิต
Amazing มาก ตั้งแต่อยู่บนเครื่อง
แพมถึงได้เข้าใจมากขึ้นว่าทำไม ชาวต่างชาติชอบมาเที่ยวเมืองไทย มองจากหน้าต่างเครื่องบิน ตอนแรกเห็นผืนน้ำซึ่งไม่รู้ว่าเป็นน้ำเค็มหรือน้ำจืด และมีชายหาดกระจายอยู่มากมาย มีจุดสีขาวเล็กๆ เยอะมาก ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรือไหม พอเข้ามาใกล้ๆ นั่นแหละใช่เลย
มองจากด้านบนจะเห็นภูมิประเทศที่เป็นภูเขาเหมือนที่เราเรียนสมัยเด็กๆ เลย ว่าไม่ใช่พื้นที่ราบ มันไม่เหมือนภูเขาทางเหนือหรือทางอีสาน เพราะทั้งภูเขาเต็มไปด้วยต้นมะพร้าว แต่พอเรามองเข้ามาใกล้ขึ้นอีกมันไม่ใช่มะพร้าว มันคือปาล์ม ซึ่งคลุมพื้นที่สุดลูกหูลูกตา
นอกจากนั้นก็เห็นบ่อเลี้ยงอะไรสักอย่างมากมาย เหมือนจะเลี้ยงปลาก็ไม่ใช่ หรือเขาเลี้ยงกุ้ง หรือเลี้ยงหอย หรืออะไรไม่รู้ คือเราไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ทะเลไกลสุดก็ไปเพียงแค่ระยอง ตึกสูงๆ แทบไม่เห็น ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด พอถึงสนามบินเราก็เข้าไปรับรถที่เช่าไว้ทันที
ในระหว่างทาง สิ่งที่สังเกตุได้คือ ถนนที่นี่ดีมากๆ เป็นลาดยางอย่างดี แทบไม่เห็นรอยแตกของถนนเลย เส้นทางโค้งไปมา แทบไม่มีรถในถนนเลย ถนนโล่งมากๆ หมู่บ้านดูกระจัดกระจายกันไม่แออัด
ทริปนี้ นอนคืนเดียว ไปเช้าวันนึ่ง ที่เที่ยวที่เราจะไปคือ
- ทะเลสาบเชี่ยวหลาน และนอน 1 วัน ที่เขื่อนรัชชประภา
- รุ่งขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด แล้วบินกลับกรุงเทพ
จากเที่ยวทริปนี้แล้วบอกเลยว่าติดใจ ไปเที่ยวใต้ตลอดเลย 555+
อุทยานแห่งชาติเขาสก
Khao Sok National Park
เขื่อนเชี่ยวหลาน สวยมาก จนอยากไปอีก เป็นการเที่ยวใต้ครั้งแรก
เชี่ยวหลาน ลงเที่ยวที่เดียวคุ้ม เที่ยววันเดียวก็ไม่หมดบินลงสนามบินสุราษฎร์ธานีเช่ารถ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ก็ถึง เพราะไม่ไกลมาก และถึงแม้จะมีแต่ภูเขา ถนนที่นี่ดีมากๆ จากนั้น ซื้อทัวร์เรือหางยาว ของแพมเหมา 2,100 ไปกัน 3 คน ตกคนละ 700 เที่ยวครึ่งวัน แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว แต่ถ้าให้คุ้ม เอาทั้งวันก็ยังได้ เพราะที่นี่สวยตื่นตาตื่นใจมาก
ที่เที่ยวในจุดนี้ มีหลายที่ เช่น
ทะเลสาบเชี่ยวหลาน
เขื่อนรัชชประภา
แพนางไพร
วังปลา
กุ้ยหลินเมืองไทย
เขาสามเกลอ
อุทยานแห่งชาติเขาสก
เที่ยวใต้ครั้งแรกในชีวิต ดีมาก จนอยากไปอีก : สุราษฎร์ธานี
ค่าใช้จ่าย
ค่าเรือ
เหมา 2,100.- นั่งกัน 3 คนเฉลี่ย คนละ 700.-
ชมกุ้ยหลินเมืองไทย
เล่นน้ำที่แพ และให้อาหารปลา
ใช้เวลาทั้งหมดประมาณครึ่งวัน
ที่พัก
คืนละ 1,500.- ห้องวิวริมน้ำหลังเขื่อน
น้ำใสมาก น้ำจะใสขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากขึ้นเรือ จนถึงกุ้ยหลินเมืองไทย ซึ่งเป็นส่วนของภูเขาที่เต็มไปด้วยน้ำจากเขื่อน กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างใหญ่มาก นั่งเรือเที่ยวยังไงก็ไม่หมด
น้ำที่นี่จืดสนิท แพมชิมแล้วไม่เค็ม ยิ่งนั่งเรือไปไกลเท่าไร่ ก็อาจจะรสชาติแปลกๆ หน่อย เพราะจะมีส่วนของน้ำเค็มปนมานิดหน่อย
กุ้ยหลินเมืองไทย
หลายภาพ แพมถ่ายด้วย Xperia 1 II รุ่นใหม่ล่าสุดของ Sony ทริปนี้เที่ยวด้วย Xperia ถ้าอยากรู้ว่าภาพไหน ต้องดูโพสที่เพจครับ และยังมีคลิปจาก Xperia 1 II อีกเพียบครับ
ภาพนี้จะดูมีมิติมาก ถ่ายจาก Nokia 9 ที่มีกล้อง 5 ตัว รวมภาพเป็น 1 ภาพ
ภูเขาที่นี่จะมีรู มีหลืบ มีถ้ำเต็มไปหมด บางส่วนน้ำก็พัดกิ่งไม้มาเกาะตัวกันกับหิน เหมือนรังนกเลย
จุดนี้เรียกว่า เขาสามเกลอ เป็นจุดถ่ายรูปที่มีชื่อเสียงมาก ไปแล้วก็อย่าลืมแวะถ่ายรูปตรงนี้เยอะๆ นะครับ
อุทยานแห่งชาติที่นี่ น่าเที่ยวมาก ธรรมชาติก็ดีสดชื่นมาก คนเที่ยวน้อยมากกก แทบไม่มีคนเลย อาจเป็นเพราะวันธรรมดา ซึ่งก็ดี เที่ยวกันแบบชิวๆ ไปเลย
แพนางไพร
เมื่อเดินทางกลับ คืนนี้เราพักหลังเขื่อน ได้เห็นน้ำที่ปล่อยจากเขื่อน ซึ่งจะปล่อยทุกๆ คืน เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า ส่วนกลางวันก็จะปิดน้ำจนแม่น้ำ เป็นแอ่งน้ำเล็กๆ เล่นน้ำได้สบาย น้ำใสแจ๋ว ไม่ต้องกลัวจม แต่ต้องขึ้นก่อนฟ้ามืดนะ ก่อนที่เขาจะปล่อยน้ำอีกครั้ง
เช้าวันรุ่นขึ้น เราไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และไป ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด
เขื่อนเชี่ยวหลาน
น้ำสีฟ้า ใสแจ๋ว หรือเขื่อนรัชชประภา หรือ เชี่ยวหลานเฉยๆ ซึ่งจะหมายถึงทะเลสาบเชี่ยวหลาน และเขื่อนปูนที่เห็นคือ เขื่อนรัชชประภา แต่หลายคนจะเรียกว่า เขื่อนเชี่ยวหลานแทน ที่เที่ยวที่นี่สวยมาก เอาจริงๆ ว่าสวยกว่าไปทะเล
ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ ปกติถ่ายเซลฟี่ ไม่ใช่เพราะชอบนะ แต่ไม่อยากรบกวนเพื่อน เกรงใจ รูปส่วนใหญ่ก็จะเซลฟี่ตลอด วันนี้พามาดูหลังเขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภา ตรงนี้จะเห็นเครื่องปั่นไฟ ซึ่งเขาจะปล่อยมาประมาณ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป หลังเขื่อนจะเป็นคลองเล้กๆ น่าเล่นมาก แต่เมื่อมืดแล้ว อย่าลงไปนะค่ะ เพราะน้ำที่เขาปล่อยมาปั่นไฟ จะสูงขึ้นเยอะมากแบบหลายเมตรเลย นอนฟังเสียงน้ำไหลที่ห้อง นั่งชมวิว ทานข้าวเบาๆ ค่ะ
แพนางไพร
เล่นน้ำ ชมวิวกุ้ยหลินเมืองไทย วันนี้แพมจะพาทุกคนมาเที่ยวเล่นน้ำที่ แพนางไพร Nang Prai Raft Houseเล่นน้ำลึก 40 เมตรเชียวนะ ถ่ายด้วย Sony Xperia 1 II ทั้งคลิปครับ เชี่ยวหลานมีที่เที่ยวเยอะมาก หนึ่งในนั้นก็คือ แพนางไพร เพราะไปง่ายใกล้กับเขื่อนมากที่สุด นอนชมวิวกุ้ยหลินเมืองไทยได้เลย ที่พักที่นี่เป็นของอุทยาน คืนละ 1,000.- แบบห้องน้ำรวม และ 1,200.- ห้องน้ำในตัวครับ
แพนางไพร
เมื่อถึงแพจะได้เล่นน้ำ ครั้งแรกที่ลงเล่นน้ำ เพราะกลัวน้ำลึก แพนี้เป็นของอุทยาน ดูชื่อเหมือนเจ้าของชื่อไพร 555+ แต่ไม่ใช่ เป็นของรัฐ ไม่ได้เป็นของเอกชนแต่อย่างใด
ที่เชี่ยวหลาน ไม่มีหาดนะคับ ชายฝั่งส่วนที่เหมือนหาดแต่จริงๆ ไม่ใช่ จะลึกมาก หลายสิบเมตรเลย อันตรายมาก จะเล่นน้ำต้องใส่ชูชีพตลอด
ตรงที่เราเล่นน้ำลึกปกติถึง 60 เมตร เชียวนะ สมมุติตึก 1 ชั้นสูง 3 เมตร 60 เมตรก็ตึก 20 เมตรเลย แค่ฟังก็ขนลุก แต่ตอนนี้น้ำลดเลยเหลืออยู่ที่ 40 เมตร อยู่บนแพ ใส่เสื้อชูชีพตลอดเลย ถ้านอนพักบนแพ อาจตกน้ำได้ เพราะอาจจะเมา หรือนอนละเมอ และตายมาหลายศพแล้วพี่เขาบอก ดังนั้น เราต้องไปเที่ยวแบบมีสติ ใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลาเลยจ้า
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด
ทริปเที่ยวใต้ครั้งแรกในชีวิต น้ำเริดแฮงจ้า ไม่เคยเล่นน้ำสนุกและฟินขนาดนี้มาก่อน น้ำใสสะอาดมากเพราะเป็นมาจากตาน้ำ ลืมตาในน้ำได้แบบไม่แสบตาเลย มองเห็นปลาเยอะมากๆ
แนะนำไป เพราะรู้สึกประทับใจมาก คนน้อย มีบริการจากเจ้าหน้าที่ อาหารการกินข้างนอกครบ ไม่แพง ราคาเหมือนกินทั่วไป ไม่ได้ชาร์จแพงแบบที่ท่องเที่ยวหลายที่
น้ำใสแจ๋ว พร้อมฝูงปลา ไม่ลงเล่นก็น่าเสียดายนะ ไม่มีจุดลึกครับ ทุกส่วนเท่ากันหมดเลย ลึกสุดประมาณต้นขา เขามีให้เช่าห่วงยางด้วยนะครับ เผื่อพาเด็กไปเล่น ไม่แพง 20 บาท ถ้าจำไม่ผิด เพราะถ้าไปทะเล จะแพง 60 บาท
ขับรถไปง่ายมาก ไม่ไกล
บินจากดอนเมือง กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี และเตรียมเช่ารถไว้ ที่เช่าได้ Yaris Ativ วันละ 800.- เติมน้ำมันเต็มถังมาให้แล้ว ซึ่งเขาจะเอาส่งมาส่งสนามบิน จากนั้นขับรถไป ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ตาม Google Maps
ที่ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ทางเข้าจะเป็นหมู่บ้านลูกรังหน่อย เป็นถนนดินแต่ไปได้ และจะไม่ค่อยมีที่พัก เมื่อเที่ยวตรงนี้แล้ว ก็แนะนำไปเที่ยวต่อทะเลสาบเชี่ยวหลาน ไปหาที่พักที่นั่นได้เลย
ค่าเข้า 25.-
ถ้าจะพายเรือด้วย 65.-
เจ้าหน้าที่คุยดีมากทุกคน เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ชุมชนพากัยรวมตัวกันสร้างแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม โดยไม่ให้กรมป่าไม้ หรือหน่วยงานรัฐอื่นๆ มาจัดการแทน เข้าไปก็เจอกับเจ้าหน้าที่ท่านนึ่ง คุยละเอียดมาก ฟังอย่างเพลินเลย
น้ำใส จะมี 3 บ่อ เป็นบ่อที่เขาทำความสะอาดอยู่ตลอด จึงเห็นทรายสีขาว ที่เหลือส่วนที่จะพายเรือ พื้นน้ำจะเป็นสีดำ เพราะมีตะกอน แต่น้ำยังใสอยู่ตลอดทาง เห็นปลาตลอดทาง
เป็นที่เที่ยวที่ไม่ค่อยจะมีคน แต่แนะนำไปแต่เช้า ก่อนที่คนจะเยอะจะได้ถ่ายรูปฟินๆ สวยๆ แบบไม่ติดภาพคนอื่นมาด้วย เจ้าหน้าที่บอกว่าบางทีจะมีมาถ่ายหนัง ถ่ายแบบ ดังนั้นก็ต้องรีบมาแต่เช้า ก่อนที่เขาจะมาเลย จะดีที่สุด
ต้นน้ำนี้หล่อเลี้ยง 3 ตำบล เจ้าหน้าที่เคยประสบปัญหาขยะ แม้จะมีการตรวจกระเป๋าแล้ว ก็ยังเจอปัญหาขยะ ดังนั้น สิ่งที่เอาเข้าไปไม่ได้เลย เด็ดขาด คือ
กระเป๋า ถ้าไม่ใช่กระเป๋ากล้องโดยตรงถึงแม้ใส่กล้องก็ไม่ได้
แพมเพิ้สเด็ก
ทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวข้อง ยกเว้น
กระเป๋าเงิน ขนาดเท่าฝ่ามือ
มือถือ
กล้อง
เสื้อผ้า ที่จะไปเปลี่ยน
ทุกอย่างต้องถือไปด้วยมือ ห้ามมีถุงใส่ด้วยนะ
และวันนี้แพมก็เจอมนุษย์ป้าของจริง เอาจริงๆ ว่าไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ระหว่างที่กำลังถ่ายรูป ในตอนนั้นถอดหมด เดินถ่ายรูปริมน้ำใส และเท้าเปียกอยู่ เป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่เข้ามาเล่นวันนี้
ป้า : น้ำเขาให้เล่นไหม (แต่งหน้ามาอย่างสวย)
แพม : เล่นได้หมด (น้ำใสมีทั้งหมด 3 บ่อ) แต่พอดีผมยังไม่ลง เพราะกลัวเปียกครับ (ยิ้มให้ด้วย) (เพราะขอไปพายเรือก่อน ค่อยกลับมาเล่นเดี๋ยวหนาว)
ป้า : เขาให้ลงเล่น หรือไม่ให้เล่น! (ขึ้นเสียง)
แพม : อ๋อ ให้เล่นครับ
ป้า : (เดินหันหลัง) แค่นี้! ตอบสั้นๆ! (พูดหันหลังกระแทกใส่)
แพม : … (พูดไม่ออก)
แล้วนางก็รีบเดินพากันไปถ่ายรูปต่อ ชวนเพื่อนที่มาด้วยกันไปถ่ายมุมนี้ ทำท่าแบบนี้ ทิ้งเราให้เอ่อไปเลย
ป้ามาเป็นกลุ่ม ยังนิสัยเสีย แต่งตัวดี แต่งหน้าสวย ทำเหมือนคนมีเงิน ยังกะเมีย อบต. มาเป้นกลุ่มใส่เสื้อโปโลสีฟ้า มาเบ่งใส่ งงมาก เหมือนเป็นหัวหน้ากลุ่มสมาคมแม่บ้าน ชมรมคนแก่อะไรสักอย่าง อายุก็เยอะแล้ว ไม่น่าเลย และยังมาขอค่าเข้าคนละ 10 บาท เพราะได้ยินตั้งแต่วอมาขอ 10 บาท กับเจ้าหน้าที่แล้ว คนอื่นเขาจ่าย 25 เราจ่าย 65 เพราะมีพายเรือด้วย
แนะนำพายเรือด้วย สนุกดี ชมธรรมชาติ ถ้าหากใครไม่อยากพายเรือเอง ก็มีคนพายให้คิดลำละ 50.- เรือแต่ละลำจะนั่งได้ 3 คน ถ้ามีคนพายด้วยจะเหลือที่นั่งได้ 2 คน
อุทยานธรรม บ้านเขานาใน เที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้น
ตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ออกจากที่พักที่เขื่อนเชี่ยวหลานแต่มืด น่าจะประมาณตี 5 เพื่อให้ไปทันดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ไม่ทัน เพราะไปถึงฟ้าก็สว่างแล้ว แต่เอาจริงๆ ไม่ควรไปเช้ามาก เพราะต้องให้ฟ้าสว่างก่อน ทางเข้าค่อนข้างอันตราย เป็นป่า มืดๆ แพมก็กลัวงูด้วย 555+
ใส่ความเห็น