โอซาก้า หรือโอะซะกะ ถ้าจะออกเสียงให้ถูก ทริปนี้แพมใช้เงินน้อยมาก เน้นถ่ายรูป รวมจุดถ่ายรูปที่ต้องมีที่โอซาก้า จองตั๋วไปกลับบินตรงแค่ 5500 และเที่ยว 4 วัน หมดรวมประมาณหมื่นเดียว อิอิ
หลายคนที่ยังไม่เคยไปญี่ปุ่น อาจจะคิดว่ายุ่งยาก เพราะไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศด้วย จริงแล้วไม่มีอะไร เพียงเราจองตั๋วเครื่องบิน เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น อันนี้เป็นทริปที่แพมไปเที่ยวกับเพื่อน เนื่องจากเพื่อนเป็นครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่น จึงแจ้งขั้นตอนคร่าวๆ เมื่อเครื่องลง สิ่งที่เราทำหลังจากเครื่องลงมีดังนี้
ถึงตรวจคนเข้าเมือง
เตรียม
พาสปอร์ต
ใบกรอกคนเข้าเมือง
ใบกรอกศุลกากร
– เอกสารการจองโรงแรม
– ตั๋วจองเครื่องบินไปกลับ
พอออกจากสนามบินเรียบร้อยก็รีบขึ้น รถไฟไปโรงแรมเลยเพื่อให้ทันเช็คอิน วันแรกเราบินถึง โอซาก้า คันไซ ตอน 4 ทุ่ม เราจึงยังไม่ใช้ pass
มาเตรียมตัวสำหรับคนที่จะไปเที่ยวโอซาก้าครั้งแรก แต่จริงๆ แล้วใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ลงโตเกียว ก็โอซาก้านี่แหละ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากโตเกียว ถ้าได้ไปที่โอะซะกะแล้ว คราวหน้าจึงจะไปลงที่อื่น เช่น ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ หรือฮอกไกโดะ
นั่งเครื่องมาจนปวดตูด เมื่อถึงญี่ปุ่น สนามบินที่โอซาก้า คือ Kansai Airport ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ซึ่งคันไซแปลว่า ภาคตะวันตกของญี่ปุ่น เป็นสนามบินลอยน้ำขนาดใหญ่ จุดพบเจอแรกเมื่อถึง จะมองเห็นฝั่งเมืองได้ชัดเจนที่ถูกกั้นด้วยทะเล
Nankai Rapid Airport Express
มาถึงโอซาก้าก็จะลงที่สนามบินลอยน้ำบนเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นแห่งแรกของโลก สนามบินคันไซ Kansai International Airport (KIX) ประมาณ 4 ทุ่ม ซึ่งดึกมาก เมื่อเราลงตรงนี้ เราต้องนั่งรถไฟไปต่อเข้าในเมือง เป็นรถไฟเอกชน ปกติก็จะลงที่นัมบะ แพมเดินทางเข้าเมืองด้วยบัตรรถไฟ Nankai Line Airport Express ที่เร็ว ใช้เวลาแค่ 37 นาทีถึง Namba ในขณะที่วิธีแบบอื่นกินเวลาชั่วโมงกว่า เพื่อให้ทันก่อนเช็คอินที่พัก ก่อนเที่ยงคืน เราใช้ Nankai Airport Express ที่ซื้อไว้แล้ว ไปแลกตั๋วจริงที่เคาน์เตอร์ หลังจากเราถึง KIX แล้ว ต้องรีบหน่อย เพราะถึงสนามบินปุ๊บ วิ่งเลย ออกมาให้เร็วที่สุด ขนาดเร็วแล้ว ก็มาก่อนปิดเพียง 10 นาที เฉียดฉิวจริงๆ ถ้าเราซื้อ JR Pass เราจะยังใช้ไม่ได้นะ สำหรับ Nankai เพราะเป็นของเอกชน ซื้อล่วงหน้าตั้งแต่อยู่กรุงเทพ พอถึงสนามบินก็ไปแลกตั๋วแล้วเดินทางเข้าเมืองกันเลย ตอนซื้อเลือกแบบ Limited Express ไปเลย เร็วกว่า ราคาไม่แพงมาก เวลาขึ้นก็อย่าลืมขึ้นให้ถูกขบวนนะ ไม่งั้นซื้อ Express มา แต่ขึ้นผิดไปนั่งรถไฟแบบช้าที่จอดทุกสถานีนะ เวลาซื้อตั๋วเครื่องบินควรถึงญี่ปุ่นควรจะมาถึงประมาณไม่เกิน 2-3 ทุ่ม เพราะไม่งั้นต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถไฟ ก่อนที่รถไฟจะหมด เพราะไหนจะต้องขึ้นตั้งแต่ Nankai ซึ่งใช้เวลารวมขึ้นลงประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วต้องไปต่อใต้ดินเพื่อไปที่พักอีก แต่หากที่พักไม่ไกลจากนัมบะ อาจจะยังพอเดินไปได้ ไม่งั้นได้หาแท็กซี่นะจ๊ะ รถไฟ Express ความเร็วประมาณ 160 กม./ชม. นั่งสบายๆ เริดๆ ด้วยการออกแบบดูแบบโบราณนิยมอยู่ จะมีที่เก็บกระเป๋าด้านหลัง แต่แพมถือมาเลย เดี่ยวตอนลงรถลืม ตรงสนามบินจะมีพลาซ่าให้เดินช็อปด้วยนะ อยู่ฝั่งตรงข้าม หรือจะเดินมาข้างบนก็จะมีของฝากขายเหมือนกัน
OAP
โอซาก้า เมืองหลักของภาคคันไซหรือภาคตะวันตกของญี่ปุ่น (West) เที่ยวโอซาก้า หาบัตรเที่ยวคุ้มที่สุด แพมไป 4 วัน ซื้อ 2 วันแรก Osaka Amazing Pass หรือ OAP 2 วัน ประมาณ 1,000+ บาท และ Kansai Tru Pass หรือ KTP 2 วัน ประมาณ 1,200+ บาท บัตร 2 แบบนี้ สามารถซื้อได้เลย ชื่อที่สั่งซื้อไม่มีผลกับการแลกที่ญี่ปุ่น ยกเว้น JR Pass ที่เมื่อไปแลกที่ญี่ปุ่น ชื่อต้องตรงกับ Passport
ซึ่งถ้าจะซื้อเมื่อมาโอซาก้า ควรซื้อเป็น JR West Kansai Pass หรือ JR Kansai Pass ขึ้นชินคังเซนไม่ได้ บัตรเริ่มที่ 600+ บาท สำหรับ 1 วัน หรือ JR Kansai Wide Pass เที่ยวได้ไกลกว่า ขึ้นชินคังเซนไป Himeji ได้ บัตรเหมา 5 วัน 2300+ บาท
เช้าวันรุ่งขึ้น แลกตั๋วที่ซื้อมา Osaka Amazing Pass เข้าชมทุกอันที่ร่วมรายการเพื่อเที่ยวในโอซาก้า เป็นเวลา 2 วัน และวันที่ 4 ถึงเริ่มใช้ KTP แบบ 2 วัน วันแรกเที่ยวเมืองเกียวโต และวันที่ 5 เที่ยวปราสาทฮิเมจิ ด้วย KTP อาจเดินทางนานหน่อย แต่ก็ถือได้โอกาสชมบรรยากาศตามทางรถไฟไปด้วย
grandouce-hanazonocho-osaka
ที่พักโอซาก้า ไม่แพง เที่ยวปลายฝน ต้นหนาว เรื่องฮาเยอะมาก 18+
แพมมีเรื่องเล่าไปญี่ปุ่น เรื่องฮาเยอะมาก เป็น 18+ ไม่รู้ว่ามีใครอยากฟังไหมครับ ถ้าอยาก บอกหน่อยนะ ซึ่งก่อนหน้าทริปนี้ เป็นทริปที่มาเที่ยวกับเพื่อน เป็นทริปเที่ยวญี่ปุ่นครึ่งประเทศ ไปหลายจังหวัดมาก หรือจะเรียกทริปนี้ว่าทริปออนเซนก็ได้ เพราะลงออนเซนทุกจังหวัด หลายคน 99% คาดว่าไม่รู้ 555+ ถ้าอยากรู้เพิ่ม เดี่ยวมาเล่าให้ฟังครับ อิอิ
ในทริปนี้ มาเที่ยวกับเพื่อน ทริปนี้ไม่มีเพื่อนเที่ยว เลยออกค่าตั๋วเครื่องบินให้เพื่อนแต่ไม่แพง ของแพมไป-กลับ แค่ 6000 บาท ถ้าจำไม่ผิดนะ ขาไป 2000 ขากลับ 4000 บาท ซื้อถูกมาก แล้วไม่ได้จองล่วงหน้านาน ได้จังหวะมันพอดี
ในทริปนี้ก็มีเรื่องฮาอยู่ ตั้งแต่เหยียบลงประเทศญี่ปุ่นเลย ในวันนั้นฝนตก เราจองที่พักไว้ที่ Grandouce Hanazonocho ที่ Osaka ในระหว่างที่เดินทางลากกระเป๋าไปโรงแรม มีเด็กคนญี่ปุ่นมาคุยด้วยน่ารัก หล่อมาก ปั่นจักรยานมา นางจะเอาร่มมาให้ ถามว่ามาจากไหน แพมก็บอกมาจากประเทศไทย แล้วต่อด้วยอะไรยังไง แล้วเขาเสนอจะไปส่ง พร้อมเอาร่มมากางให้ แต่พังเพราะแพมมัวแต่อาย เลยปฏิเสธไป เลยไม่ได้คุยกันต่อเลย เพื่อนบอกทำไมไม่ให้เขาไปส่ง จะได้ชวนไปเที่ยว ให้เขาพาเที่ยวเมือง 555+ แต่ตอนนั้นคิดไม่ได้จริงๆ เพราะมันมาปุ๊ปปั๊บ แบบไม่ตั้งตัว
อยากจะบอกไว้ให้กำลังใจคนหลายๆ คนที่คิดว่าตัวเองไม่ดูดี หรือคิดว่าไม่สวย เพราะหลายคนชอบคิดว่าแพมมีแฟน จริงๆ ไม่มีเลย ไม่มีใครเอา ส่วนหนึ่งก็เพราะแบบเราไม่ใช่ตลาดของประเทศไทย แต่รู้ไหมว่า ทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง ตัวดำๆ คนไทย ไม่ชอบ แต่ฝรั่งอาจจะชอบก็ได้ กลับมาที่ญี่ปุ่น จะบอกว่า คนญี่ปุ่น ชอบคนไทยนะ คือถ้ารู้ว่าเราเป็นคนไทย เขาจะอยากมาคุยด้วยเลย
ในวันแรกเรื่องผู้ชายก็เลยพัง เสียดายไปทั้งทริปกับความตื่นเต้นของตัวเอง 555+ พอมาถึงโรงแรม เป็นคล้ายๆ คอนโดที่ปล่อยให้เช่า ห้องละ 1800 บาท ถ้าจำไม่ผิด แต่นอนได้ 4 คน ห้องใหญ่และใหม่มาก เป็นอาคารเพิ่งสร้างใหม่ สำหรับใครที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่น แพมแนะนำพักของ Grandouce เพราะมาตรฐาน และห้องใหญ่มาก ราคาถูก ซึ่งเขาจะมีทั่วทั้งญี่ปุ่น มีหลายสาขา แต่ที่แพมเคยไปที่โตเกียว ก็ไม่ได้ใหญ่เท่าโอซาก้า
ของ Grandouce เราต้องเช็คอินเอง ไม่ยาก แต่ครั้งแรกของแพมก็จะงงๆ หน่อย เริ่มต้นคือ ก่อนไป ทักหาโรงแรมก่อนเลย เขาจะส่งคู่มือมาให้เรา บอกวิธีก
Osaka amazing pass
ใบเดียว เที่ยวทั้งโอซาก้า
Osaka amazing pass หรือ OAP บัตรเดียว เดินทางและเข้าชมที่เที่ยวฟรี เพียงแสดงบัตร แต่แพมว่าวันนึ่งเที่ยวได้ไม่กี่ที่ เพราะเดินเหนื่อย บางวันกลับมานอนพักกลางวันโรงแรม เพราะแดดออก ร้อนมาก แล้วค่อยออกไปเย็นอีกที
Osaka Castle
ปราสาทโอซากา ที่เที่ยวที่ทุกคนต้องเคยมา
ปราสาทโอะซะกะ หรือปราสาทโอซาก้า หรือโอะซะกะโจ ไปครั้งแรกก็ตอนอายุ 21 ตอนไปดูงาน มาครั้งนี้ชวนเพื่อนไปเที่ยวก็เลยพาไปตรงนี้อีกรอบ ครั้งนี้ไปก็ตอนอายุ 30
เปิดโซนท่องเที่ยวเพิ่ม แนะนำว่าอย่าเดินเข้าไปนะ เพราะถ้าเข้าไปแล้วจะเหนื่อยมากๆ ทางจะบังคับให้เราดูสิ่งก่อสร้างรอบปราสาท จนเราเหนื่อย วันนี้แพมและเพื่อนจึงไม่ได้ขึ้นไปบนปราสาทเลย
ทางเข้า มีจัดแสดงส่วนหอคอยป้องกัน 4 จุด ที่มีทางเดินไกลกันมาก โดยเฉพาะจุดที่ 4 ที่เก็บคลังอาวุธ Gun Powder ไกลมาก แนะนำผ่านเลย เพราะหากไปตรงนี้แล้ว ไปดูปราสาทของจริง ที่อยู่รายการสุดท้ายไม่ไหวแล้ว
The Illusion Museum
10am to 5:30pm (last entry 5pm)
ก็อยู่ใน Osaka castle อันนี้เข้าชมได้เฉพาะส่วนที่จัดงานแสดง ไม่สามารถเข้าดูการแสดงได้นะ ถ้าดูเสียเพิ่ม 500 เยน
Umeda Sky Building Floating Garden Observatory
Kuchu Teien Observatory หรือ จุดชมวิวสวนลอยฟ้าตึกอุเมะดะสกาย ใช้บัตรเข้าชมฟรีก่อน 18.00 หลังจากนั้นเสีย 1500 เยน ปิด 22.30
Shitennoji Temple
เที่ยววัดชิเทนโนจิ เดินทางง่ายมาก เพราะอยู่ในตัวเมืองโอซาก้าเลย และยังมีตลาดนัด มาซื้อต้นไม้เมืองหนาวแปลกๆ ราคาไม่แพง และยังมีสวนแบบญี่ปุ่นให้ชม เรียกได้ว่าคุ้มอยู่นะ วัดชิเทนโนจิ เปิด 8:30am to 4:30pm ลงสถานีเทนโนจิ Tennoji Station เดินต่อ 1 กม. ตรงนี้มีแต่คนมีอายุหน่อยที่มาเที่ยว ไม่ค่อยเห็นชาวต่างชาติ หรือวัยรุ่น ในวัดมีขายของเก่าของโบราณเพียบ และเสื้อผ้าเก่า ขนม ขายต้นไม้ ดูแล้วคล้ายๆ ตลาดนัด และมีสวน มีเมเปิ้ลและซากุระจัดอย่างสวยงาม
ตลาดที่อยู่ในวัดชิเทนโนจิ ในตัวเมืองโอซาก้า มาเที่ยวตลาดนัดที่นี่คุ้มอยู่นะครับ สำหรับใครที่เที่ยวช็อปกับร้านในนัมบะ เบื่อแล้ว อยากลองบรรยากาศแบบตลาดนัดบ้านเรา ก็นั่งรถไฟมาได้เลย ไม่กี่สถานี ใกล้นิดเดียว เดินทางง่ายมาก นั่งรถไฟลงสถานีเทนโนจิ Tennoji Station แล้วเดินต่อประมาณ 800 เมตร แต่อาจเหนื่อยนิดนึ่งเพราะทางเดินเป็นเนินขึ้น แต่ขากลับเดินง่ายไม่เหนื่อย เพราะเดินลงเนินครับ
ตลาดนัดวัดชิเทนโนจิ
Shitennoji Flea Market
ตลาดที่อยู่ในวัดชิเทนโนจิ ในตัวเมืองโอซาก้า มาเที่ยวตลาดนัดที่นี่คุ้มอยู่นะครับ สำหรับใครที่เที่ยวช็อปกับร้านในนัมบะ เบื่อแล้ว อยากลองบรรยากาศแบบตลาดนัดบ้านเรา ก็นั่งรถไฟมาได้เลย ไม่กี่สถานี ใกล้นิดเดียว เดินทางง่ายมาก นั่งรถไฟลงสถานีเทนโนจิ Tennoji Station แล้วเดินต่อประมาณ 800 เมตร แต่อาจเหนื่อยนิดนึ่งเพราะทางเดินเป็นเนินขึ้น แต่ขากลับเดินง่ายไม่เหนื่อย เพราะเดินลงเนินครับ
วันนี้ก็มาถึงวัดเช้าหน่อย ถึง 8.30น. มีบางร้านก็เริ่มเปิดบ้างแล้วครับ
มาดูร้านต้นไม้ก่อนเลย ร้านต้นไม้ที่เป็นร้านเล็กๆ 4-5 ร้าน มีบอนไซสวยๆ ขายราคาไม่แพง น่าเหมาหมดเลยจริงๆ แต่แพมก็ไม่ได้ซื้อไปสักต้น แอบเสียดายน่าจะซื้อบอนไซแครปแอปเปิ้ลไปลองปลูกดู เพราะเคยเลี้ยงแครปแอปเปิ้ลตายไปแล้ว 2 ต้น เลยไม่กล้าซื้อมาอีก แต่เดี่ยวสิ้นปีนี้จะไปญี่ปุ่นอีก ในโตเกียวมีย่านที่ขายต้นไม้โดยเฉพาะ ว่าจะไปแวะดูอยุ่ครับ รอบนี้คงต้องเอามาให้ได้
เรามาดูต้นแรกเลยดีกว่า ต้นนี้แครปแอปเปิ้ลบอนไซ ดูจากลำต้นแล้วท่าทางน่าจะอายุหลายปีอยู่นะ ราคาถูกมาก เพียง 3,800 เยน หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 1,140 บาท น่าซื้อมากๆ แต่ถ้าเราต้องการให้มันออกลูกสวยๆ แบบนี้ คาดว่าน่าจะไม่ยากครับ เพราะแครปแอปเปิ้ล ออกดอกอยู่ตลอดเวลาและให้ลูกดกอยู่แล้ว
สำหรับตันขวามือ ยิ่งถูกลงกว่าเดิม เพียง 2,000 เยนเท่านั้น หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 600 บาท แอบเสียดายน่าจะซื้อหิ้วมาด้วย เพราะต้นเล็ก ไม่ได้หนักเลย
ส่วนต้นไม้เมืองหนาวอื่นๆ ที่น่าซื้อ คือ สนใบพายและสนดำ ราคาถูกมาก
เริ่มที่ 600 เยน หรือ 180 บาท ก็ได้บอนไซสนดำสวยๆ แล้ว เคยซื้อที่บ้านเราถูกสุดก็ต้นละ 900 บาทไทยไปแล้ว
สนใบพายก็สวย ราคาถูกด้วยครับ เพราะอาจเป็นพืชที่บ้านเขาด้วยแหละ ที่มีอยู่ทั่วไป รวมถึงบอนไซเมเปิ้ล พอมาถึงบ้านเรา ต้นไม้นำเข้าเลยดูมีราคาแพง
แต่เมเปิ้ลที่นี่ และบอนไซเมเปิ้ลเป็นพันธ์ที่ไม้ได้ตกแต่งพันธุกรรม ใบอ่อนเลยเป็นสีเขียวและถ้ามาปลูกบ้านเราคงจะเขียวอยู่ตลอดเวลา ซื้อที่บ้านเราสวยกว่าครับ แบบที่ตัดแต่งให้ใบอ่อนเป็นสีแดง และแดงนานๆ ที่นำเข้าจากจีนสวยกว่า ถึงแม้ซื้อบ้านจะแพงกว่าก็ตาม
มีเมเปิ้ลที่ไม่ใช้สายพันธ์ุญี่ปุ่นด้วยนะ ที่เหมือนก่วมภูคา ราคาก็ไม่ได้ถูกกว่าสายพันธ์ุญี่ปุ่น และก็แบบพันธุ์ใบใหญ่ๆ แบบเมเปิ้ลแคนาดาด้วยครับ
HEP FIVE Ferris Wheel
นั่งชิงช้าสวรรค์ชมวิวเมืองโอชาก้า ในเว็บแจ้งเข้าฟรีก่อน 20.45น. แต่ไปถึง 22.00 ก็ได้เข้าฟรีอยู่นะnปิด 22.45
Sakishima Cosmo Tower Observatory
11am to 10pm
last entry: 30min before closing
Osaka Tennoji Zoo
9:30am to 5pm (Sat, Sun and holidays in May and Sep until 6pm)
ตรงนี้สวนสัตว์เดินเยอะมาก สัตว์มีไม่เยอะมาก และแต่ละตัวจะอยู่ห่างกันหน่อย มีเด็กและคนเที่ยวชมบ้าง
Tsutenkaku Tower
หอคอยทสึเท็นคะคุ ตรงนี้คนเยอะมาก ทางเข้าอยู่ใต้ดิน ต่อแถวขนาดตรงนี้ จะมีป้ายบอก ประมาณ 40 นาที ถึงจะได้ขึ้นไปถึงด้านบน ไม่ค่อยคุ้มเท่าไร่ เพราะรอนานมาก หลังจากรออยู่ชั้นใต้ดิน พอขึ้นลิฟไปชั้น 2 ก็ต้องรออีกนานมาก
Osaka Aquarium Kaiyuka
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง โอซาก้า
The world’s largest aquarium
ถ่ายจากด้านหน้าภายนอก แค่เห็นอาคารก็เริดแล้ว รอบๆ อาคารเป็นทะเล ไปดินเล่นได้ อากาศดีมาก ลมดี เข้ามาในอาคารมีปลาหลายชนิดมาก

ป้ายหนุ่มกูลิโกะ
Dotonbori Glico Sign
The Neon Signs of Dotonbori
ป้ายบิลบอร์ดชื่อดังขนาดใหญ่ เป็นป้ายโฆษณาของบริษัทขนมหวานกูลิโกะ
20/11
8.40 น
เข้าที่พัก
ศาลเจ้าสุมิโยชิ ฟรี เปิด 6.30-16.30
Momofuku Ando Instant Ramen Museum 9.30-16.30
ชมวิวที่ อาคารชมวิวอูเมะดะสกาย Umeda Sky Building ฟรีก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
ศาลเจ้าอิคุตะ
Ikuta Shrine
24/11 ศุกร์
วากายามะ เดินทาง 1.40 ชม
ปราสาทวากายามะ 9.00-17.30 410¥
ขับโกคาร์ทในเมืองโอซาก้า 7500¥ 13.00,16.00,19,00 (ใบขับขี่สากล) (โปรแกรมเสริม)
25/11 เสาร์
ไปนารา 8.00 น 1 ชม.
สวนกวาง
วัดโคฟูกุจิ
วัดโทไดจิ
พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา
26/11 อาทิตย์
7.00 น. พร้อมเดินทาง
เดินทางไป เกียวโต 1,610¥ 1 ชม. 40 นาที
พระราชวังเกียวโต ฟรี เปิด 9.00-16.00 ปิดจันทร์
Ginkakuji ค่าเข้า 500¥ เปิด 8.30-17.00
Kinkakuji ค่าเข้า 400¥ เปิด 9.00-17.00
Heian shrine เข้าวัดฟรี ค่าชมสวน 600¥ เปิด 6.00-17.30 (โปรแกรมเสริม)
ดู Gion corner มีรอบ 18.00,19.00 ค่าเข้า 3,150 ¥
27/11 จันทร์
kiyomizu-dera ค่าเข้า 300¥ เปิด 6.00-18.00
Kodaiji ค่าเข้า 500¥ เปิด 9.00-17.30
yasaka ฟรี
28 /11 อังคาร
tentyuji ค่าเข้า 500¥ เปิด 8.30-17.30
นั่งรถไฟ ค่าเข้า 620¥ เปิด 9.00-16.00 ปิดพุธ ออกทุก ชม.
สะพาน Togetsukyo ฟรี
29/11 พุธ
มาถึงโอซาก้า 10.30 น.
ฝากกระเป๋าที่ตู้ที่สถานี
19.00 น ไปสนามบิน
กลับไทย 23.45 น.