เที่ยวจันทบุรีครั้งแรก เป็นการเที่ยวจันทบุรีครั้งแรกของแพม ที่ไปทะเลอันดามันมาจนเพลีย ที่ล่าสุดเที่ยวอยู่อันดามัน 2 เดือน จนเหนื่อยมาก อยากกลับมานอนเฉยๆ อยู่บ้าน แต่ทริปจันทบุรี ก็ต้องไปเพราะจ่ายค่าที่พักแล้ว เมื่อถึงเวลาก็เลยไป และไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แค่ไปลองขับรถน้ำมันเที่ยวดูบ้าง

ประสบการณ์เที่ยวหาดเจ้าหลาวเป็นครั้งแรกนะคะ ระยะทางเดินทางจากบ้าน 250 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าไกลกว่าพัทยาตอนแรกเราคิดว่าไกลกว่าไม่มากแต่พอมาจริงคือใช้เวลาขับรถนานมากแล้วทางที่มานะคะจะเป็นทางแบบประมาณ

รถน้ำมัน

เชื่อไหม แพมบอกเลยว่ารถน้ำมันนี่แหละ ขับสนุกสุด เพราะมันได้อารมณ์ของการขับรถ ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่กำลังทำงาน และการที่เราต้องดูแลรถมากกว่ารถไฟฟ้า ทำให้เหมือนเราก็ต้องหันกลับมาดูแลสุขภาพตัวเองด้วย

รถสปอร์ต

ขับรถไปเที่ยวจันบุรีครั้งแรก กับรถสปอร์ตสีส้ม เวลอสเตอร์รุ่นแรก ของฮุนได ซึ่งตอนนี้มีรุ่นแรกกับรุ่นสอง และก็เลิกผลิตแล้ว ตอนแรกว่าจะขาย แต่พอเขาเลิกผลิต เก็บไว้ดีกว่า เพราะมันขับดีมาก อีกคันแพมเป็นรถไฟฟ้าที่ขับมาตลอด พอได้มาขับคันนี้เลยรู้ว่า รถสปอร์ตน้ำมันนี่แหละ เริดมาก เพราะเป็นรถสปอร์ต การออกแบบก็เลยไม่เชย น่าจะอยู่ได้อีก 30 ปี ก็ยังสวย แบบรักษาดีๆ ขนาดมาเที่ยว แพมยังหอบผ้าคลุมรถมาด้วย

ความเร็ว

รถสปอร์ตคันนี้ ขับได้เร็วมากโดยรถยังเกาะถนนแน่นเว่อ แต่แพมขับแบบรถอีแต๊ก อิอิ คือ ไม่เกิน 80 สำหรับทางหลวง 4 เลน และไม่เกิน 60 สำหรับ 2 เลน เพราะเคยเห็นใบสั่งที่ความเร็วเกินครั้งหนึ่ง เสียดายเงินค่าปรับ อีกอย่างการขับช้าก็ได้ดูวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้เห็นบรรยากาศระหว่างทางที่ไปเที่ยวด้วย

และแพมก็ดีใจ ที่ตัวเองมาเที่ยวจันทบุรีที่ขับได้ประหยัดมากถึง 4.5 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 22 กิโลลิตร เริดมาก ตอนเช้า ที่อากาศเย็น ไม่ได้เปิดแอร์ แต่พอแดดเริ่มออก เปิดแอร์และรถเริ่มเยอะ ทำให้โดยรวมทั้งทริปเป็น 5.5 ลิตร หรือ 18 กิโลลิตร ก็ยังเริดเว่อ เพราะรถคันนี้จริงๆ กินน้ำมันมากกว่าปกติ เป็นรถสปอร์ต 1.6 ลิตร แต่เป็นเทอร์โบคู่ ที่น่าจะกินน้ำมันประมาณเท่าเครื่อง 2000 ซีซี ที่ขับได้แบบนี้เพราะแพมแทบไม่ได้แตะเบรก ทั้งขับปกติ และแซง ถ้าตอนแซง ก็จะพยายามหาช่วงที่ไม่เห็นรถจริงๆ ทั้งหน้าและหลัง เพื่อใช้แซงให้นานกว่าปกติ

เส้นทาง

เส้นทางจากบ้านถึงหาดเจ้าหลาว 250 กิโลเมตร โดยมาทางมอเตอร์เวย์ และออกจากทางออกแถวชลบุรี ไปทางจันทบุรี โดยไม่ถึงพัทยา ไม่เหมือนระยอง ที่จะถึงพัทยาแล้วต่อไประยอง ไปเกาะเสม็ดได้ แต่จันทบุรีตัดออกมาก่อนเลย เส้นทางจากทางด่วนหลายเลน ก็มาเป็นเหมือนทางหลวงที่มีแค่ 4 เลน และมีชุมชนข้างทาง มีโรงเรียน มีวัด มีอะไรต่างๆ และใช้เวลาเดินทางนานกว่าที่คิดมาก แต่ก็ได้เห็นความใหม่ๆ ที่เราไม่เคยมา ให้ได้ตื่นเต้นเหมือนตอนเราเป็นเด็ก

เมื่อขับรถน้ำมัน เวลาเดินทางไกล จะดีกว่ารถไฟฟ้าถ้าเราขับบนทางหลวงเพราะมันมีเกียร์ที่เมื่ออยู่ในเกียร์สูงสุด เครื่องจะเงียบมาก และขับได้ไกลแบบประหยัดมาก ทำให้แพงกว่าไฟฟ้านิดเดียว และไฟฟ้าถ้าไปชาร์จตามปั๊มก็ไม่ใช่ว่าถูกเหมือนไฟบ้าน การขับรถน้ำมัน ทำให้เที่ยวสนุกขึ้น ไม่ต้องกังวลหาที่ชาร์จ ไม่ต้องคอยดูแบตที่เหลือด้วย

จะพอขับมาเรื่อยๆ ยิ่งใกล้หาดที่จะไปพัก ป้ายที่เที่ยวเยอะมากๆ จากลิสต์มาแล้วส่วนหนึ่ง เห็นป้ายหลายอันยังไม่คุ้นเลย

โรงแรม

โรงแรมที่แพมพัก ใช้คนละครึ่งของรัฐ เหลือคืนละ 750 รวมอาหารเช้า 2 คน แต่แพมมาเที่ยวคนเดียวก็ยังคุ้มอยู่ เพราะที่ไม่ได้คาดหวังอะไรจากรูปมาก เพราะที่พักที่นี่ไม่ได้ถูกเหมือนป่าตอง ที่คู่แข่งเยอะมาก ที่หาดเจ้าหลาว รีสอร์ทบ้านๆ งานบ้านๆ ไม่เนี๊ยบ ก็จะเริ่มที่ 1500 แล้ว และตอนขับรถมาเห็นป้าย ที่พัก 350 ไวไฟ แอร์ น้ำอุ่น ไม่รู้ว่าเป็นแบบไหนนะ น่าจะดูอยู่ เผื่อใครที่เน้นประหยัด แค่นอนเฉยๆ

5 ดาว

และรีสอร์ทที่แพมจอง จ่ายเงินแล้ว ที่ต้องจำใจมา พอมาถึง วัสดุต่างๆ ทั้งไม้จริง การทำสีไม้จริงแบบด้าน กลอน ลูกบิดต่างๆ ความสะอาด ความใหม่ของโรงแรม มันคือแบบรีสอร์ท 5 ดาวเลย เริดมาก และห้องน้ำคือตกใจมาก ใหญ่มาก เหมือนจะเอาเสื่อมาปูเข้าไปนอนได้เลย

พอตกดึกเดินดูหน้าหาด เมื่อแพมเดินออกไปหาดที่น้ำลดไกลๆ จนกลับมามองเห็นทั้งอ่าว โรงแรมแพมที่พักนี่แหละ น่าจะดีสุดในย่านนี้ เพราะกลางคืนไฟสว่างสุด หน้าหาด ที่เหลือมืด อาจเพราะเป็นช่วงที่แขกน้อย เขาก็เลยปิดไฟประหยัดพลังงานก็อาจเป็นได้ แต่โรงแรมแพมสวย ใหม่ และสว่างสุดเลย ทั้งที่ตอนจองไม่ได้คิดว่าจะดีขนาดนี้

หาด

หาดเจ้าหลาว พอมาถึง จากที่คิดว่าช่วงนี้ทั้งลมทั้งฝน แต่ที่นี่น้ำนิ่งมาก คลื่นกระทบฝั่งเบาๆ และตื้นมากๆ แบบว่าเดินไปไกลๆ แบบน้ำยังไม่ถึงเข่า ก็เลยไปถามพี่เต๊ก ที่อยู่ห้องอาหาร พี่เขาบอกว่า น้ำเพิ่งนิ่งสวยได้ 3 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีแต่คลื่น เป็นโชคดีของแพมจริงๆ

และที่นี่สวยตอนพระอาทิตย์ตกดิน ที่เราจะเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำที่นี่ แต่ช่วงนี้ยังฝนอยู่ เลยมีฝนตกบ้าง และท้องฟ้ามืดมัว เลยไม่เห็นพระอาทิตย์ตกน้ำ

ชมพระอาทิตย์ตกดิน และนั่งทานข้าวหน้าหาดกับบรรยากาศสวยๆ และดูวิถีชีวิตชาวบ้านที่ออกมาตกหมึก จับกุ้ง กั้ง และเคย

อาหารโรงแรมก็ไม่ได้แพงมาก ข้าวผัดจาน 80 และน้ำมะพร้าว 60 รวม 140 และแพมใช้คนละครึ่ง เหลือ 70 บาท น้ำมะพร้าวคือดีมาก น้ำมะพร้าวหวานหอม และเนื้ออ่อนกำลังดี

โบสถ์สีน้ำเงิน

โบสถ์สีน้ำเงิน วัดปากน้ำแขมหนู จันทบุรี