อ่าวปิเละ

อ่าวปิเละ ชมความงามของทะเลในธรรมชาติ บนพื้นทรายที่ทำให้น้ำทะเลใส สีเขียวมรกตสะท้อนแมงแดด พร้อมภูเขาโอบล้อมทุกด้าน

พีพีเล

อ่าวปิเละ อยู่ในเกาะพีพีเล หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เป็นอ่าวที่สวยงามอ่าวหนึ่งของเกาะพีพีเล ที่ประกอบด้วย อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ และอ่าวโล๊ะซามะ

ปิเละ

อ่าวปิเละ หรือเรียกว่าปิเละ ลากูน คำว่าลากูน แปลว่าทะเลใน หมายถึงมีทางเข้าและทางออกทางเดียว และเป็นทางเดียวกัน ลากูนจะมีน้ำนิ่ง เพราะล้อมรอบด้วยภูเขาทุกด้านทำให้ปลาเล็กปลาน้อยมาอาศัยอยู่ที่นี่ เพื่อหลบซ่อนปลาใหญ่ เป็นคล้ายๆ บ่ออนุบาลลูกปลาในลากูน

ลากูน

ปิเละลากูน คือ ไฮไลท์ที่หลายคนอยากมาพีพี ชมความสวยงามของทะเลใน เล่นน้ำในลากูน ที่มีทางเข้าและออกเป็นทางเดียวกัน และรายล้อมด้วยภูเขาหินปูนที่สูงตะหง่า น้ำจะใสแจ๋วบริเวณทางเข้าลากูน แนะนำให้ถ่ายรูปตรงนี้เลยเพราะสวยสุด และเรือจะพามาเล่นน้ำด้านในสุดของลากูนที่น้ำใสน้อยกว่า แต่ปลอดภัยกว่า เพราะทางเข้าออกเล่นน้ำไม่ได้ อันตราย น้ำตื้นมาก และมีเรือผ่านไปมา

น้ำใส

อ่าวปิเละ ต่างจากลากูนที่อื่นเช่น เกาะห้องลากูน เพราะด้านล่างเป็นพื้นทรายปะการังที่มีสีขาวละเอียด ทำให้พื้นน้ำของอ่าวปิเละใสมาก เป็นสีเขียวมรกต ซึ่งทำให้หลายคนอยากมาเที่ยวที่อ่าวปิเละ เกาะพีพี

โดดน้ำ

โดดน้ำจากหน้าเรืออ่าวปิเละ สามารถทำได้ เพราะน้ำมีความลึกที่เวลาเราโดดลงไปแล้ว ตัวเราจะไม่กระแทกพื้น แต่ถ้าจากหลังเรือไม่สามารถทำได้ เพราะน้ำจะตื้นมาก เพียง 2 เมตร ถ้าโดดเอาขาลงทำได้ แต่ไม่สามารถโดดเอาหัวลงก่อนได้ อันตราย แต่ปกติแล้วทะเลใน หรือลากูน ที่มีทางเข้าและทางออกทางเดียว เขาจะไม่ให้ลงเล่นน้ำ เพราะมันมีลูกปลาหลายชนิด ที่เราจะไปรบกวนเขา ทำได้แค่แล่นเรือผ่านแล้วกลับออกมาทางเข้าเดิม เหมือนเกาะห้องลากูน ที่เราลงเล่นน้ำไม่ได้ นอกจากนี้ยังป้องกันเราไปเหยียบปลากระเบน เหยียบหอยแม่นที่ชอบอาศัยอยู่น้ำนิ่งแบบนี้ ถ้าเหยียบปลากระเบน มันก็จะทิ่งเราเจ็บ อันตรายมาก แต่ในกฏของอุทยาน แพมยังไม่เคยเห็นเรื่องการห้ามโดดน้ำ แต่มีเรื่องของการห้ามเหยียบบนปะการัง ห้ามจับ และแตะสัตว์น้ำ ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกันก็ได้

ดำน้ำ

ดำน้ำที่อ่าวปิเละ หลายคนอาจจะคิดว่าอ่าวปิเละมีแต่หิน แต่จริงแล้วทะเลทุกอ่าว มีปะการัง แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อม ทำให้มีปะการังมากน้อยแตกต่างกัน ที่อ่าวปิเละก็มีปะการัง และมีปลานีโม่ด้วย ปะการังที่นี่จะหนาแน่นตรงทางเข้า จริงแล้วทะเลใน หรือลากูนที่มีทางเข้าและออกทางเดียว เป็นที่อาศัยของปลาเล็ก ปลาน้อย ที่มาหลบ และอาศัยอยู่ที่นี่

ปะการังที่อ่าวปิดเละ แพมเคยดำ เพราะวันนั้นน้ำลงหนักมาก จนเรือคาตามารันเข้าอ่าวไม่ได้ ทำให้เวลาในตอนนั้น คือเล่นน้ำหน้าอ่าว หรือจะดำน้ำดูปะการังหน้าอ่าวปิเละได้ ตรงนี้ไม่น่าเชื่อว่ามีดอกไม้ทะเล มีปลานีโม่อยู่เยอะขนาดนี้ เพราะอ่าวปิเละ คือความหนาแน่นของเรือมากที่สุดในไทยเลยก็ว่าได้ อารมณ์เหมือนรถติดในกรุงเทพ เรือที่วิ่งไปมาทั้งวันที่รบกวนธรรมชาติ ที่มีทั้งมลพิษ ทั้งควัน ความร้อน และน้ำมันต่างๆ ละลายสู่ทะเลด้วย ก่อนที่อ่าวมาหยาจะกลับมาสวยมีปลาอยู่หน้าหาด ก็ต้องปิดไปหลายปี ถ้าอ่าวปิเละได้พักฟื้นตัวแบบอ่าวมาหยา ก็น่าจะสวยไม่น้อย จริงๆ ที่เที่ยวรอบเกาะพีพีมีเยอะมาก มีมากมายหลายอ่าว ถ้าแพมทำทัวร์พาลูกค้าไปเที่ยวเอง แพมจะตัดอ่าวปิเละออกไปเลย ไปดำน้ำอ่าวอื่นๆ เกาะพีพีดอน หรือไปอยู่เกาะไผ่นานๆ จะดีกว่า เพราะที่อ่าวปิเละ ก็คือเกาะพีพีเล อ่าวมาหยา นั่นคือ หมายจุดว่า เกาะนี้เราก็ได้เดินทางมาถึงแล้ว แต่อ่าวปิเละ ถ้าเรามาตอนเช้ามืด หรือมาทัวร์ดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่ยังไม่มีคน ถ้าแดดดี น้ำนิ่ง สวยมาก น้ำที่อ่าวปะเละ จะใสสะท้อนแสงกับท้องเรือ

กลับมาที่ดำน้ำ ปะการังที่นี่เอาจริงๆ คือสวยเลย คล้ายๆ กับอ่าวอื่นๆ ของเกาะพีพี วันนั้นระหว่างดำน้ำ เราก็ต้องระวังเรือด้วย คือดำน้ำแต่แค่อยู่ใกล้ๆ เรือ เลยไปสำรวจไกลไม่ได้ วิธีการที่ดีคือ แพมว่าปิดทุ่นรอบอ่าวปิเละเลย แล้วใช้เรือแคนู ให้ชาวบ้านที่นั่นมีรายได้จากเรือแคนูด้วย เปลี่ยนจากเรือหางยาว เป็นพายเรือแคนูเข้าไปอ่าวปิเละ เหมือนเกาะห้องพังงา น่าจะดีไม่น้อย นอกจากไม่รบกวนธรรมชาติแล้ว นักท่องเที่ยวก็ได้ทำกิจกรรม ได้ดำน้ำดูปะการัง เพราะมันมีปะการังจริงๆ ถ้าทำแบบนี้ปะการังและปลาคงกลับมาให้เห็นสวยๆ เป็นทุ่งไปเลย และน้ำที่นี่ก็ใสมาก จนทำให้ต่างชาติหันมาเที่ยวไทย ที่เราเห็นอยู่ทุกวัน นอกจากนี้ การที่ไม่มีเรือยนต์ ทำให้นักท่องเที่ยวดำน้ำได้อย่างปลอดภัยด้วย การพายเรือแคนูชมความงามของธรรมชาติรอบๆ เกาะพีพี คงสวยงาม และสนุกไม่น้อย

ขยะ

ขยะที่อ่าวปิเละจะมีบ้างประปราย ลอยน้ำ พัดตามน้ำไปมา เพราะไม่มีหาดที่ขยะไปเกยตื้น นักท่องเที่ยวที่ไปกับแพมบางที เขายังถามเลยว่า ขยะพวกนี้ตอนเย็นจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บใช่ไหม อันนี้แพมคิดว่าน่าจะไม่ เพราะถ้าเขาเก็บ คนเรือที่ไปมาอยู่เต็มอ่าวคงเก็บไปแล้ว ตอนเย็นแล้วใครจะมาเก็บ เขาก็พากันกลับบ้านนอนกันหมด ขยะก็จะลอยไปมา แล้วโดนทะเลเผากลายเป็นไมโครพลาสติก ที่เหลือก็จะพัดเข้าหาด เช่น หาดลิง ก็มีขยะอยู่ เวลาแพมถ่ายรูป ก็จะถ่ายไม่ให้เห็นขยะที่กองบนหาด เป็นที่น่าเสียดายว่า ทะเลที่ห่างไกลจากฝั่งขนาดนี้ ความสวยงามกำลังหายไป เพราะขยะเพียงไม่กี่ชิ้น และทุกปีเหมือนจะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ