พักครั้งที่ 2
มาเที่ยวในอาทิตย์ต่อมา ก็มาพักที่อันดามันตรา แต่คราวนี้เป็นตึก 7 ห้อง Honey Moon ได้ราคาถูกประมาณห้อง Deluxe คราวก่อนหรือถูกกว่า แนะนำใครคิดว่าจะไปเที่ยวแล้วก็จองห้องเลย เพราะราคาห้องจะขึ้นตามจำนวนห้องที่เหลือด้วย
ตึก 7 จะสูงกว่าตึก 6 หน่อย แต่วิวสวยเหมือนกัน ตึก 7 ก็จะสวยกว่าหน่อย รู้สึกว่าห้อง Honey Moon จะได้วิวสวยที่สุด จะมีแค่ตึก 6 และ 7 และสวยกว่านั้นก็จะเป็น Villa เป็นตึกที่ไม่มีลิฟเหมือนเดิม คราวนี้ขึ้นพักชั้น 3 ก็เดินเอา ตึก 6 และ 7 ทั้งสองตึกนี้ มี 3 ชั้น พักชั้นไหนก็ได้ ทั้ง 2 ตึก ทุกชั้น วิวจะไม่บังกัน จะพักชั้น 1 ก็ได้เห็นวิวสวยๆ เหมือนกัน ถ้าไปกับครอบครัว ก็แนะนำพักชั้น 1 โดนเฉพาะผู้สูงอายุ บันไดจะเยอะหน่อย เพราะตึกตั้งอยู่หน้าผา หรือจะพัก Villa เลยก็ได้ เป็นหลังไปเลย วิวสวยสุด เพราะอยู่สูงสุดของโรงแรม เวลาขึ้น-ลง ก็จะมีรถรับ-ส่ง แต่อาจจะต้องรอหน่อย ประมาณไม่เกิน 10 นาที บางทีรถก็เต็ม เพราะคนขึ้น-ลงตลอด ต้องเผื่อเวลารอคันต่อไปด้วย สำหรับใครที่จะออกไปเที่ยวเกาะ แล้วนัดรถ minibus รับที่โรงแรม
รอบนี้พักที่ตึก 7 ชั้น 3 ได้วิวสูงที่สุด แม่บ้านดูแลดีเหมือนเดิม พอเราเข้าพักเลยถามว่าหัวหน้าแม่บ้านอยู่ไหม เผื่อไปเซไฮ แม่บ้านก็บอกว่าเขาอยู่ตึกอื่น แพมก็เลยไม่ได้รบกวน ไม่นานมีคนมาเคาะห้อง พี่เขาจำได้ รอบนี้เลยจัดดอกไม้ให้อย่างสวยงาม ไว้ถ่ายรูปด้วย
เจอแม่บ้าน ดีใจที่แม่บ้านจำได้ว่าเคยมาพัก แล้วโดนไฟช็อต ก็เลยจัดห้องให้อีกรอบ อย่างสวยกว่าเดิม เอาฟองและดอกไม้ มาใส่อ่างอาบน้ำให้ด้วย
ทริปนี้ออกเรือครั้งแรกเที่ยว Banana Beach และวันสุดท้านก่อนกลับ นั่งดูพายุสวยๆ ที่ระเบียง และนั่งดูฟ้าผ่า จากห้องได้เลย วิวบรรยากาศดีมาก ตอนเย็นก็ไปทานข้าวที่ร้านอาหารอีกโรงแรม หน้าหาดเหมือนเดิม ราคาถูกเหมือนเดิม ปลากระพงนึ่งมะนาว มาเป็นหม้อไฟ ตัวใหญ่มากแค่ 250 บาท และใช้เราเที่ยวด้วยกันก็ลดไปอีก 40% เหลือ ตัวละ 150 บาทเท่านั้น
ตอนกลับวันสุดท้ายท้องฟ้ามีฟ้าแลป ฟ้าผ่า ฝนรินๆ เราตากไอฝนเป็นไข้เลย หนาวสั่นมากๆ ตอนเช้า พอเปิดน้ำระบบทำความร้อนตึกเรามีปัญหา แพมอยากได้น้ำอุ่นอาบน้ำมาก เผื่อจะดีขึ้น เลยขอโรงแรมอาบน้ำอุ่นตึกอื่นได้ไหม สรุปก็ไม่ได้ แต่ช่างก็ยังทำไม่เสร็จ เราก็เลยต้มน้ำกินไปหลายแก้ว จนดีขึ้นหน่อย กลัวตัวร้อนจะขึ้นเครี่องไม่ได้ เพราะต้องออกแต่เช้า แต่ระหว่างทางมือเย็น หนาวสั่น แสบจมูกมาก แต่อุณหภูมิร่างกายปกติ ดีใจที่ได้กลับบ้านสักที
ได้รูปฟ้าผ่าด้วย กลัวก็กลัว อยากถ่ายก็อยากถ่าย ได้มารูปเดียว เก็บกล้อง ปิดประตูระเบียง เลย อิอิ
ภูเก็ตรอบนี้ ไม่ได้ออกเรือ แพมอยู่แต่เกาะภูเก็ต อยู่แต่ในภูเก็ต ตอนแรกก็คิดว่า มันก็สวยเหมือนกัน เพราะน้ำก็ใส และมีหาดมากมาย คือหาดเยอะมากๆ และสวยน้ำใสทุกหาดรอบเกาะภูเก็ต ทริปนี้ก็เลยจะเที่ยวหาดทุกหาดวนรอบเกาะ แต่สิ่งที่ได้คือ อารมณ์มันก็ไม่เหมือออกเรือ ที่มีกิจกรรม ได้นั่งเรือไปโน่นไปนี่ไปนั่น และอย่างเราทริปนี้ไปคนเดียว ไปจอยทริปกับเรือ สนุกกว่ากันเยอะเลย เลยวางแผนไว้ว่า มาเกาะภูเก็ตต้องออกเรือให้ได้
เพื่อนแพม ไปเที่ยวมาหลายที่ ส่วนใหญ่ไปเหนือ เพราะหลายคนก็ไปเหนือกัน ถามไปถามมา ไม่เคยมาเที่ยวใต้ เคยแต่มาตอนเด็กๆ ซึ่งแค่มาเที่ยวกับครอบครัว มาตรงไหนก็จำไม่ได้แล้ว ทีนี้เป็นทริปเที่ยใต้ครั้งแรก หลังจากที่เที่ยวเหนือเก็บมาจนหมดทุกที่ล่ะ เขาเลยมาถามแพมไม่รู้จะไปไหนดี แพมแนะนำต้องออกเรือเลย จะมาเฉยๆ ขับรถผ่านไม่ได้นะ อิอิ แต่ก็แล้วแต่คนที่มาด้วยแหละ เหมือนว่าคงจะไม่ได้ออกเรือที่ฟังเขาๆ คุยกันอ่ะนะ ไม่เป็นไร เดี่ยวแพมพาไปใหม่ เพราะเที่ยวใต้ เที่ยวทะเลยังไงก็ไม่เบื่อ คิดจะไปเที่ยวในหัวมีแต่ทะเลๆ หาดๆ เกาะๆ จริงๆ นะ
ตอนนี้คือช่วงไฮซีซัน ของทางเหนือที่อากาศกรุงเทพหนาวจนไม่ต้องเปิดแอร์ แต่ได้ห่มผ้า ทางเหนือยิ่งหนาวกว่า แล้วคนก็พากันไปเที่ยวมากมาย จนที่พักราคาแพงมากๆๆๆๆๆๆ เอาจริงๆ ถ้าอยากหนาวๆ ไปอิสาน รับประกันว่า สั่นเลย อิอิ เพราะทางโน่นจะหนาวแบบมีลมมาด้วย พัดมาแต่ละที หนาวสั่นไปหมด แต่ทางเหนืออากาศจะเย็นกว่าแบบไม่มีลม และพอกลางวัน ทางเหนือจะบอกว่าร้อนมากกกกๆ เพราะมันอยู่บนภูเขา น่าจะใกล้ดวงอาทิตย์กว่า และแดดก็แรงมาก จะหนาวเฉพาะตอนเช้า และตอนเย็น ตอนกลางคืนนะ เอาจริงๆ
พอถึงไฮซีซันของทางเหนือที่ทุกคนไปสัมผัสอากาศหนาว ทางใต้ก็เป็นไฮซีซันเช่นกัน ภาคใต้เป็นภาคที่ไม่มีฤดูหนาว จะมีแต่ร้อนกับฝนสลับกันไปมา เหมือนที่เคยได้ยิน ฝน 8 แดด 4 เพราะจะเน้นฝนมากกว่า คงจะอยู่ใกล้ทะเลที่พาเอาน้ำทะเลมาตกบนแผ่นดินใหญ่ ทำให้ทีนี้ช่วงที่เป็นฤดูหนาวของภาคอื่นๆ จึงเป็นเป็นที่ภาคใต้ฝนตกน้อยสุด และเป็นไฮซีซันเหมือนกัน เพราะน้ำทะเลจะสวยสุดเมื่อแดดจัด ถ้ามีฝนหรือครึ้มมาเมื่อไร่ นอกจากอาจจะไม่ได้เที่ยวเกาะ เรือออกไม่ได้ น้ำทะเลที่หาดบนฝั่งก็พังเหมือนกัน ไม่ใส จะออกเป็นสีเขียวทึบแทน แต่ถ้าแดดจัด น้ำทะเลจะใสแจ๋ว สีฟ้า เป็นประกาย แม้หาดที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ แพมชอบมาก แค่อ่าวนางก็สวยแล้ว นั่งเล่น ดูพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ ได้ทุกวัน แค่ไปนอนก็ฟินแล้ว
ที่เล่ามา คือ สรุปว่าคนส่วนใหญ่ จะชอบไปเที่ยวเหนือมากกว่า อาจจะเป็นเพราะเหมือนอยู่ต่างประเทศที่อากาศหนาวๆ และใต้คนจะไปเที่ยวน้อยกว่า สังเกตุจากสนามบินที่ใต้คนจะน้อย และไฟล์บินก็จะน้อย ซึ่งบางจังหวัดก็จะน้อยมาก และราคาจะแพง แพมไปเที่ยวทะเลใต้ทีไรไม่เคยเห็นสนามบินแตก อิอิ แต่พอไปเหนือ จะกลับไฟล์ดึกสุด สนามบินแตกจ้า คนเยอะมาก แบบว่าได้นั่งกับพื้น และคนที่ไม่ได้นั่งเยอะมาก รอเครื่องอยู่สนามบิน เหตุนี้ทำให้ไปเที่ยวเหนือแพมว่าเงินเยอะกว่า ยิ่งที่เที่ยวบนที่กันดารๆ ราคาห้งอพักแพงมาก อย่างแพมไปบ้านรักไทย นอนจะเรียกว่าอะไรดี เหมือนห้องแถว ให้ 0.3 ดาวพอ อิอิ ราคาก็คืนละ 2000 แล้ว พอไปที่ใต้ นอนโรงแรม 4 ดาว ติดหาด ราคา คืนละ 700 ซึ่งต่างกันมากๆ แต่อาจจะเป็นเพราะฝรั่งยังไม่เข้ามาเที่ยวไทยช่วงโควิดก็เป็นใต้ แต่โดยรวมถูกต่างกันเยอะ คุณภาพก็ต่างกัน ไปเที่ยวเหนือต้องเน้นนอนในเมือง ถึงจะไม่แพง
ใส่ความเห็น