ไปกระบี่คนเดียว ง่ายนิดเดียว
ขาไปนั่งรถ Shuttle Service 150 บาท แล้วจะมีหางตั๋ว มีเบอร์โทร ไว้ให้เราจองรถกลับ ในนั้นจะมีส่วนลดว่าถ้าใช้ใบนี้เหลือ 100 บาท เอาจริงๆไม่ต้องใช้ก็ได้ เมมเบอร์ไว้ แล้วทิ้งก็ได้ เพราะเขาแต่อยากให้เราเลือกใช้บริการเขา ในตอนขากลับเท่านั้น
ขากลับสนามบิน คนละ 100 โทรจองรถ แล้วเขาจะแจ้งเวลาที่มี ถามเบอร์โทร โรงแรม ห้องไหน รถมาตรงเวลามาก มาพอดีเป๊ะเลย แต่รับหลายที่หน่อย และก่อนถึง คนขับร้ายมาก อิอิ พาแวะร้านของฝากก่อน 15 นาที ซึ่งก็ได้อยู่ แต่จริงๆ ก็ไม่ควรนะ เพราะไม่ใช้ทัวร์ เป็นรถ Shuttle service รับส่งสนามบิน
ตากแดดทั้งวัน คือตอนนี้ ตัวดำมากๆๆๆ ทั้งแขนทั้งขา แดงไหม้ไม่เลย เมื่อคืนนอนแทบไม่ได้เพราะหลังไหม้ เจ็บหลังตอนนอนมาก แต่หน้ายังใส คล้ำลงนิดหน่อยเอง ฟื้นแปปเดียวก็ขาวเท่าเดิมล่ะ เพราะใช้พิก โบทานิค ไวท์
ทริปเที่ยวทะเลคนเดียว จะเป็นจอยทริป แพมจองตั๋วเครื่องบิน พอมาถึงสนามบินกระบี่ ไปซื้อตั๋ว Shutter Service ที่ใกล้ทางออกของสนามบิน หรือถามแถวนั้นก็ได้ ทุกเจ้าราคาเท่ากัน 150.- แจ้งลง The Verandah Hotel ได้เลย โรงแรมที่พักรอบนี้ 3 ดาว ราคาเพียงคืนละ 600.-
ขากลับ ตรงตั๋วจะมีเบอร์โทร โทรแจ้งล่วงหน้า 1 วันให้มารับกลับวันไหน ตอนประมาณกี่โมง แล้วรถก็จะมารับกลับวันนั้น ถ้าแท็กซี่ไพรเวท เริ่มต้นที่ 600.- แพงไป แพมไม่แนะนำ แนะนำเรียก Grab แต่ไม่รู้ว่ามีไหม ไม่เคยเรียกใช้เลย
วันที่ 1
ไม่ได้เช่ารถ เพราะเที่ยวหาด และทะเลอย่างเดียว ทริปจอย ต้องเช็คให้ว่ามีไหม เพราะบางวันลูกค้าน้อย อาจไม่มีจอย หรือวันไหนคนเยอะ เรือเต็มก่อน ถ้าไม่มีต้องเหมาลำ แพมมีราคาพิเศษ เสาร์และอาทิตย์มีโอกาสจอยทริปเยอะกว่า
หรือนั่งเรือไปไร่เลย์
เหมาะกับการปีนผา ไม่เหมาะกับการดำน้ำดูแพลงตอน เดินไปหน้าโรงแรม ไปซื้อตั๋วเรือ Shutter Service 120 บาท รอจนเรือเต็ม เรือก็จะออก ถ้ากลับหลัง 18.00น. ราคา *2
วันแรกเช็คอินที่โรงแรม ถึงก่อนเที่ยง เช็คอินได้เลย ถ้าห้องว่าง หรือถ้าไม่ว่างมีที่ฝากกระเป๋า และไปเดินเล่น ดูพระอาทิตย์ตกที่อ่าวนางสวยๆ
ทริปนี้แพมได้ยกเลิกทัวซันเซต เพราะดูในรีวิวอื่นๆ เห็นบอกว่าอันตรายจากการดำน้ำตอนกลางคืน ซึ่งอาจถูกโขดหินและหอยเม่นบาด และบนเกาะไม่มีไฟแสงสว่างเลย ซึ่งจะลำบากมาก เรือก็ไม่แนะนำไป เพราะที่มีทริปนี้จะมีเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติชอบเที่ยวแบบดูพระอาทิตย์ตกดิน เลยได้จัดขึ้น ส่วนใหญ่คนไทยจะไม่ค่อยไปเท่าไร่ แต่ตอนนี้ได้ไปแล้ว ไปมา 2 รอบ สวย เพราะไม่มีคนเลย บรรยากาศดีคนละแบบกับตอนกลางวัน
การเดินเรือตอนกลางคืนก็น่ากลัวเช่นกัน เปลี่ยนเป็น ซันเซทหาดไร่เลย์ดีกว่า พอไปถึงอ่าวนาง เรือที่ไปหาดไร่เลย์ก็มี แต่ขากลับไม่มีคนกลับต้องเหมาเรือกลับลำละ 800 ก็เลยไม่ได้ไปครับ
ระหว่างทริปเกาะห้อง ไปหาเพื่อนเอาข้างหน้า เจอน้องอาย น้องอายไปทริปซันเซทมา บอกว่าไม่น่ากลัวเลย ได้เห็นแพลงตอนด้วย ในตอนนั้นมันหนาว ไม่มีใครอยากลงจะกลับกันหมด ไม่มีใครอยากลงไปดำน้ำดูแพลงตอนกัน แล้วไกด์ก็เลย ดับไฟ ไปตักน้ำมา เทลงเรือ มันก็แตกเป็นสีน้ำเงินเรืองแสง ทุกคนลงกันหมดเลย ฮามากน้องบอก แต่พอลงไปก็ไม่หนาวเท่าไร ไม่ได้เย็นมาก
น้องบอกต้องไปตีๆ น้ำ มันถึงจะเรืองแสงออกมา สวยมาก ของจริงเยอะมากๆ แต่ถ่ายไม่ติด ถ่ายด้วยกล้องมือถือไม่ติดเลย เลยไม่มีรูปมาให้ดู ถือเป็นครั้งแรกของน้องที่เป็นแพลงตอนเรืองแสง ก็ประทับใจมาก
แนะนำให้ไปดูซันเซทที่ถ้ำพระนาง เพราะสวยมากค่ะตรงนั้น
วันที่ 2
กลับถึงฝั่ง เดินเล่น
หาดนพรัตน์ธารา
เดินดูหาด ส่วนใกล้กับท่าเรือสกรณ์
เดินไปดูเกาะรูปหัวใจ ใกล้ๆ ได้
หาดไผ่ปล้อง
เดินผจญภัยบันไดลิง
วันที่ 3
ดินเล่นอ่าวนางตอนเช้าๆ เช็คออกจากที่พักและกลับ
3 Days 2 Nights in Krabi . เที่ยวกระบี่ – ทริป 3 วัน 2 คืน
ทริปนี้เราเที่ยวกัน 5 คนเหมือนเดิม เรียกทริปนี้ว่าพาป้าเที่ยว สมาชิกเที่ยวรอบนี้เหมือนเดิม แพม ป้ากุ๊กกิ๊ก น้องตี๋ น้องนัด น้องเติ้ล บอกเลยว่าเป็นเครั้งแรกของทุกคนที่มาที่กระบี่ และ 3 คนเป็นครั้งแรกที่มาที่ใต้
ปกติแล้วเที่ยวใต้ ใช้เงินมาก กระบี่ ภูเก็ต เที่ยวแต่ละครั้งอาจใช้เงินสูงถึงคนละ 10,000 – 20,000.- เลยทีเดียว แต่ตอนนี้เป็นช่วงโควิดที่โรงแรมถูกมากๆ จากปกติคืนละหมื่น เหลือเพียงคืนละพันเท่านั้นเอง เพราะถ้าไม่เที่ยวตอนนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้เที่ยวแบบราคาถูกๆ ประหยัด และยังไม่ต้องแย่งคนอื่นเที่ยวอีกด้วยดังนั้นเราจะไปแบบงบประหยัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เอาไว้เผื่อเที่ยวที่อื่นบ้าง
สำหรับใครที่ไปคนเดียวก็ง่ายมาก เพราะจากสนามบินก็มีรถประจำทางด้วย อาจเป็นรถตู้ ราคาไม่แพง 80 หรือ 100 บาท นี่แหละเห็นเขาซื้อกัน ตรงประตูทางออก ภายในสนามบินก่อนที่เราจะเดินออกไป และสำหรับทัวร์เรือเร็ว หรือจะเป็นเรือหางยาว เราก็ซื้อเป็นคนได้ ได้ร่วมทริปกับคนอื่น ซึ่งเขาจะจัดให้ ซึ่งหรือเร็ว หรือ Speedboat อาจจะนั่ง 20 คน เพื่อนแพมไปจองทัวร์เรือหางยาว 2 คน ก็ได้อัพเป็น สปีดโบทเลย เพราะคนส่วนใหญ่ซื้อสปีดโบท แทนที่จะเอาเรือหางยาวออกไป ก็ได้อัพเกรดฟรีๆ เลย เนื่องจากเที่ยวไม่นาน เราอาจต้องทำเวลา รีบถ่ายรูป รีบเที่ยวรีบไป เพราะมีสถานที่เที่ยวแบบธรรมชาติ แบบ Natural เยอะมากๆ ในแบบที่ไม่เคยเห็นในที่เที่ยวแถวกรุงเทพ
แพมได้ยกเลิกทัวซันเซต เพราะดูในรีวิวอื่นๆ เห็นบอกว่าอันตรายจากการดำน้ำตอนกลางคืน ซึ่งอาจถูกโขดหินและหอยเม่นบาด และบนเกาะไม่มีไฟแสงสว่างเลย ซึ่งจะลำบากมาก เรือก็ไม่แนะนำไป เพราะที่มีทริปนี้จะมีเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติชอบเที่ยวแบบดูพระอาทิตย์ตกดิน เลยได้จัดขึ้น ส่วนใหญ่คนไทยจะไม่ค่อยไปเท่าไร่
การเดินเรือตอนกลางคืนก็น่ากลัวเช่นกัน เปลี่ยนเป็น ซันเซทหาดไร่เลย์ดีกว่า พอไปถึงอ่าวนาง เรือที่ไปหาดไร่เลย์ก็มี แต่ขากลับไม่มีคนกลับต้องเหมาเรือกลับลำละ 800 ก็เลยไม่ได้ไปครับ
ระหว่างทริปเกาะห้อง ไปหาเพื่อนเอาข้างหน้า เจอน้องอาย น้องอายไปทริปซันเซทมา บอกว่าไม่น่ากลัวเลย ได้เห็นแพลงตอนด้วย ในตอนนั้นมันหนาว ไม่มีใครอยากลงจะกลับกันหมด ไม่มีใครอยากลงไปดำน้ำดูแพลงตอนกัน แล้วไกด์ก็เลย ดับไฟ ไปตักน้ำมา เทลงเรือ มันก็แตกเป็นสีน้ำเงินเรืองแสง ทุกคนลงกันหมดเลย ฮามากน้องบอก แต่พอลงไปก็ไม่หนาวเท่าไร ไม่ได้เย็นมาก
น้องบอกต้องไปตีๆ น้ำ มันถึงจะเรืองแสงออกมา สวยมาก ของจริงเยอะมากๆ แต่ถ่ายไม่ติด ถ่ายด้วยกล้องมือถือไม่ติดเลย เลยไม่มีรูปมาให้ดู ถือเป็นครั้งแรกของน้องที่เป็นแพลงตอนเรืองแสง ก็ประทับใจมาก
แนะนำให้ไปดูซันเซทที่ถ้ำพระนาง เพราะสวยมากค่ะตรงนั้น
ใส่ความเห็น