หาดไผ่ปล้อง ไม่ต้องออกเกาะ ก็ได้เที่ยวทะเลสวย เดินข้ามจากหาดอ่าวนางไปหาดไผ่ปล้อง เดินผ่านบันไดไม้ พร้อมชมธรรมชาติไประหว่างทาง เป็นหาดที่คนน้อย และที่เดินทางง่าย เพียงเดินต่อไปจากอ่าวนาง ขึ้นบันไดลิงไปตามเขา ปกติทางนี้เป็นทางของพนักงานโรงแรมเซนทารา แกรนด์
บันไดเป็นไม้ เดินระวังๆ หน่อยนิดนึ่ง เหนื่อยนิดนึ่ง ใช้เวลาเดิน 10 นาที เดินขึ้นและเดินลงพอแพมถึงหาดไผ่ปล้อง ดีใจ เพราะเดินไปเหนื่อย หอบอุปกรณ์กล้องเยอะ แต่ขากลับเร็วมาก อิอิ
ด้านข้างของหาด ทั้งสองฝั่ง มีโขดหิน ไปถ่ายรูปได้เลย สวยๆ ไปหลบแดดได้เลย น้ำตรงนี้ใสกว่าอ่าวนางเยอะมาก ใสเห็นพื้นเลย เดินไปไกลๆ ได้ โดยที่ไม่ลึกเลย มีปลาเยอะมากตรงนี้ ไม่เหมือนที่อ่าวนาง น้ำไม่ค่อยใส ปลาก็ไม่เห็น แต่อ่าวนาง วันไหนแดดจัด น้ำจะสวยเป็ยสีฟ้าเลย แต่ที่หาดไผ่ปล้องน้ำจะเป็นสีเขียว
ตรงโขดหิน มีปูอยู่เยอะมาก แต่เวลาเราเดินไปถ่าย มันวิ่งไปหลบหมด ปูสีเหมือนหินมาก จะดูยากหน่อย ตรงโขดหินขึ้นไปถ่ายรูปได้ ตรงนี้จะมีคลื่นกระแทกซัดได้ ต้องระวังหน่อย และหินอาจจะบาดได้ ต้องค่อยๆ เดินไป
ดูพระอาทิตย์ตกดิน หาดไผ่ปล้อง
หาดอ่าวนาง เป็นหาดที่เราจะต้องมาแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญของกระบี่ เพราะเป็นจุดท่องเที่ยวที่ใหญ่สุด ที่พักอยู่ตรงนี้มากมาย เป็นศูนย์รวมของร้านค้าต่างๆ เยอะมาก แต่ตอนนี้ แทบเรียกได้ว่าร้างกันไปหมดแล้วเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเลยจากโควิด
มาครั้งแรกเช่ารถ มาครั้งที่ 2 ไม่ได้เช่ารถ ไม่ค่อยชอบ Shuttle service เท่าไร เพราะเขารวมคนมาด้วยกัน ให้มาส่งในเมืองก่อน ส่งท่าเรือไปพีพี แล้วค่อยมาส่งอ่าวนาง ซึ่งต้องกลับมาผ่านที่สนามบินอีกที เท่ากับ นั่งรถเวียนหัวเล่น แนะนําให้แยกรถเป็น 2 คัน คันนึ่งออกจากสนามบินไปทางขวา คันนึ่งไปทางซ้าย
เนื่องจากตรงนี้เป็นที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารแถวนี้จะเป็นแบบราคาแพงแทบทั้งหมด ราคานักท่องเที่ยว อาหารตามสั่งแบบข้างทางไม่มีให้เห็น ขนาดคนอยู่ในพื้นที่เองยังหาร้านข้าวถูกๆ ยากเลย ดังนั้น เมื่อถึงคราวของโควิด ตรงนี้ก็เลยแทบร้างไปเลย ร้านทุกร้านเงียบไปหมด เพราะของที่นี่ต้องเป็นนักท่องเที่ยวถึงจะยอมรับกับราคานี้ได้
เราพักที่อ่าวนาง ซึ่งจะมีรถมารับไปขึ้นเรือเพื่อไปชมเกาะปอดะ เกาะห้อง หรือใครจะไปเกาะพีพีก็ต้องมาที่นี่
กระบี่แพมมาเที่ยว 2 ครั้ง ทั้ง 2 ครั้งพักโรงแรมที่เดินไปหาดได้ง่ายๆ ราคาไม่แพง แต่ในครั้งที่ 2 ที่มาเที่ยว พักที่นี่ 2 คืน ขนาดโรงแรมใกล้หาด เอาจริงๆ ว่า เหมือนทั้งโรงแรมมีห้องแพมอยู่ห้องเดียว เพราะไม่เห็นลูกค้าคนอื่นเลย ตั้งแต่เข้าพัก พนักงานโรงแรม พูดดีมากกกกกกๆ น่าจะเป็นใต้ เพราะตากลมโต พี่เขายิ้มให้ตลอดที่เท่าเดินเข้าออกโรงแรม ขนาดบางทีเขาทำบัญชีอยู่ล็อบบี้ ซึ่งอยู่ไกลจากเคาเตอร์ เขายังยื่นหน้าออกมายิ้มให้ก่อนไปทำงานต่อ ซึ่งแพมประทับใจมาก และวันที่ไปเกาะ แค่ดูจากรถที่เข้ามารับ พี่เขาก็เตรียมผ้าเช็ดตัวให้เพิ่ม และยื่นให้เราเลย
ทะเลหากวันที่ไม่มีแดดจะไม่ค่อยสวยแบบนี้ แต่ถ้าหากแดดจัด รับรองว่าสวยจนตกใจเลยทีเดียว ที่พักอยู่ โอเค ตอนเย็น เราก็ต้องมาดูพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ จะได้เดินกลับห้องไปพักผ่อน แล้วไว้เที่ยวต่อในวัดถัดไปง่ายๆ
พระอาทิตย์ตกหลายคนมักจะคิดว่าที่ไหนก็พระอาทิตย์ตกดินเหมือนกัน แม้แต่นอนอยู่บ้านก็ยังมีให้ดู แต่ที่เที่ยวต่าง มันมักจะสวยกว่าอยู่บ้าน และทำให้แพมรู้สึกผ่อนคลายกว่า ดูแล้วมีความสุข และที่อ่าวนาง ตอนพระอาทิตย์ตกดิน ของจริงคือ สวยมากกกกก
และในอีกวัน เหมือนจะมีฝนตก หลายคนเดินกลับก่อน แต่พอพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้านั่นแหละ ท้องฟ้าเรืองแสงสีแดงสวยมากกกก และมันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวยจนเราไม่รู้ว่าจะถ่ายยังไงดี มือสั่นไปหมด
จากอ่าวนาง สามารถเดินเล่นไปทาวขวาก็จะเจอกันหาดนพรัตน์ธารา ที่ติดกัน หรือจะเดินมาทางซ้ายก็จะเป็นหาดไผ่ปล้อง หรือจะขับรถเล่นอีกหน่อย ไม่ไกลมากก็จะเจอหาดคลองม่วง