แต่เนื่องจากโชคร้าย เพราะแพมได้กัปตันที่ไม่ค่อยพูด แถมให้ข้อมูลผิด สอบถามทางคุณไกด์ ผู้จัดการเรือแล้ว เพราะกัปตันเป็นชาวบ้านในพื้นที่บางครั้งเราอาจได้คนไม่เหมือนกัน คราวหน้าถ้ามาเที่ยวอีก สามารถแจ้งขอคนพูดเก่งๆ ได้ จะได้จัดกัปตันที่พูดเยอะหน่อย บางทีก็พูดทะลึ่งก็มี อิอิ
ไร่เลย์จะมี 2 ฝั่ง เวลาเขาเรียกจะเรียกชื่อไร่เลย์เหมือนกัน
ฝั่งที่เรามา คือ ไร่เลย์ฝั่งตะวันออก หรือท่าเรือไร่เลย์ ในแผนที่คือ Floating Pier (East Railay) เป็นท่าเทียบเรือที่เห็นเป็นแท่งยื่นออกมาจากฝั่ง ตรงนี้ก็ที่เราจะจอดกัน ตรงนี้ไม่สวยเท่าไร่ แต่เป็นท่าเรือที่มาจากอ่าวนางด้วย เราสามารถเดินทางระหว่างอ่าวนางและหาดไร่เลย์ด้วยเรือโดยสารประจำทางแทนก็ได้ แทนที่จะเหมาเรือ
แล้วเราต้องเดินเพื่อไปเที่ยวซึ่งมีที่เที่ยวมากมายตรงนี้ อันดับแรก แนะนำไปหาดถ้ำพระนางก่อนเลย แล้วค่อยเดินกลับมา
และไปอีกฝั่งหนึ่งคือ ไร่เลย์ฝั่งตะวันตก ตรงนี้จะมีหาดเรียกว่าหาดไร่เลย์ ที่ซึ่งเรือไม่สามารถจอดเทียบท่าได้ เอาจริงๆ พอตอนไปเที่ยวทริปทะเลแหวกซันเซท เรือก็เข้ามาจอดได้ น่าจะเป็นเพราะพื้นที่หาดส่วนตัว อะไรสักอย่าง
ขากลับอ่าวนางนั่งเรือหางยาวฝ่าคลื่นยักษ์ ฝนตก คลื่นแรงมากๆ ถือว่าอันตราย ไม่ควรออกเที่ยว แต่ทำไงได้ เพราะตอนเช้ามันไม่ได้แรงแบบนี้
ดูพระอาทิตย์ตกดิน
ตั้งแต่ไปเที่ยวทะเลมา นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นพระอาทิตย์ตกน้ำ เพราะที่อื่น อาจจะมีภูเขาบังบ้าง มีเมฆบังบ้าง ไม่เคยตกถึงขอบฟ้าสักที และในรอบนี้ได้เห็นพระอาทิตย์ดวงใหญ่กว่าปกติมาก เพราะสภาพอากาศ และการหักเหของแสง ที่สมบูรณ์แบบ จึงจะเห็นพระอาทิตย์สีแดงดวงใหญ่ แต่เสียดายที่ไม่ได้เอากล้องเลนส์ 1200mm มาด้วย จะถ่ายได้สวยเลย
ซึ่งที่นี่ หาดถ้ำพระนาง ไร่เลย์ จะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยที่สุด หลายคนนั่งรอหน้าหาด เป็นแนวยาวทั้งหาดเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่สวยสุด เพราะพระอาทิตย์จะตกอยู่ตรงกลางหาด พอดิบ พอดีเลย และด้านข้างทั้งสองด้าน จะมีภูเขาเป็นกรอบที่สวยงามมาก
ในตอนแรกคาดว่าจะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินแล้ว เพราะเมฆบังตอนแรก แต่นั่งเรือไปสักพัก โชคดีมาก พระอาทิตย์ก็โผล่มาจากของเมฆอีกครั้ง และพร้อมที่จะตกดินสวยๆ เลย