เที่ยวคนเดียว ใช้กล้องไหน ถ่ายรูปสวย

Shot on Sony
Xperia XZ Premium ถึง 1 III
เที่ยวตัวเบา แค่มือถือตัวเดียว เพราะมือถือ Xperia เซนเซอร์เล็กเลยต้องลด EV ลงปกติก็เอา -2 เลย มืดๆ จะได้ดูได้อารมณ์ด้วย
RX1
กล้องคอมแพค เซนเซอร์ใหญ่มากแบบ Full Fream ราคาเปิดตัว 1 แสน แต่สำหรับแพมแค่ Sony Xperia ก็ได้ภาพสวยเพียงพอแล้ว ถ่ายลงเฟสได้สวยเหมือนกันเลย
RX0 และ RX0 II
กล้องจิ๋ว เอาไปเที่ยวตัวเดียวจบ ทะเลสีสวย ไปดำน้ำทุกทริปไม่ใส่บ้าน กันน้ำได้ลึก 10 เมตร เคยเอาลงไป Scuba ด้วย
RX100 IV ถึง VI
กล้องคอมแพค ที่ได้รูปสวย และยังซูมได้ไกลมาก

ใส่ฟิวเตอร์ CPL ใส่แล้วจะตัดแสงที่สะท้อนผิวน้ำออก ทำให้น้ำใสแจ๋ว แต่หลายทริปลืมถือไป น้ำทะเลเลยไม่ค่อยใส

กล้องใส่ฟิวเตอร์ ใส่ฮูด ดีไหม

เมื่อกี้ทดสอบภาพแบบใส่ฟิวเตอร์ กับไม่ใส่ฟิวเตอร์ มีผลเยอะจริงๆ แบบเห็นได้ชัดเลย จากการใช้เลนส์ 600mm ต่อไปนี้คงต้องถอดถ่ายตลอด ขายฟิวเตอร์ที่ไม่ได้ใช้ ใครสนใจทักมาจ้า อิอิ แต่ Hood ให้ภาพดูดีขึ้นจริง ทดสอบ 2 ภาพแบบใส่กับไม่ใส่ โดยเฉพาะแสงจัดๆ แต่ไม่ใส่จะดีกว่า เพราะใหญ่เหลือเกิน พกลำลาก ถ้าใช้หลายเลนส์

เทียบกล้อง Sony RX100 VI กับ Panasonic Lx10

เทียบจากการที่ได้ซื้อมาใช้เอง ทดลองเองว่าอันไหนเหมาะกับเรา ตอนนี้ที่คิดว่าเหมาะคือ Sony RX0 II แต่เพราะมันถ่ายที่แสงน้อยแทบไม่ค่อยได้ เสียตรงนี้อย่างเดียว ก็เลยต้องหาคอมแพคที่ F สว่างๆ หน่อย เลือกอยู่นานเลยได้ Sony RX100 VI และ Panasonic Lumix Lx10 มาใช้ทดสอบเลยจ้า

ที่ชอบ RX0 II เพราะเอาไปลงน้ำได้นี่แหละ ฝนตกก็ไม่กลัว RX100 เคยเอาไปเปียกฝนมาแล้ว แต่ก็ใส่ไว้ในเสื้อนี่แหละ พยายามดีที่สุดแล้ว หาอะไรคลุมปิดไม่ได้ ทั้งกระเป๋าหนังพังหมด RX100 ก็เปิดไม่ขึ้น ชาร์จไม่เข้า เลยเอาไปไว้ในห้องแอร์ ดึงความชื้นออกเยอะๆ ก็เลยเปิดกลับมา ใช้งานได้ปกติ เกือบไปแล้ว

ก็ไม่อยากซื้อ RX100 VII เพราะแพงเกินไป ถึงแม้เซนเซอร์จะได้ใหม่กว่า ที่เขาเรียกว่า Baby Alpha A9 ก็ตาม อิอิ ขอลอง RX 100 VI ก่อน ถ้าติดใจ และมันขาดตรงไหนท ฟังชั้นไหนที่จำเป็นสำหรับเรา เดี่ยวค่อยขยับไปนะ

มาถึงตอนเทียบกันแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยว่า RX100 VI มีลูกเล่นเยอะกว่า LX10 มากๆๆๆ แต่ LX10 จะได้เปรียบที่เลนส์ที่สว่างกว่ามากกกๆ เช่นกัน อยู่ที่ F1.4 ซึ่งรูรับแสงใหญ่มากๆๆ ทำให้ได้ภาพเบลอหลังสวยงาม

ถึงแม้ว่า RX100 VI จะมีค่ารูรับแสงต่ำสุดอยู่ที่ 2.8 ที่มุมเลนส์กว้างสุด ในขณะที่ LX10 สว่างมาก 1.4 แต่เอาเข้าจริง มันได้แต่ DOF แต่เรื่องความสว่าง Sony ดันค่า ISO และได้คุณภาพไฟล์สวยกว่ามาก เราเลยเข้าใจว่าทำไม RX100 VI ถึงราคาแพงกว่า LX10 ถึงเกือบ 2 เท่าเลย

ระยะเปิดปิดกล้องก็มีผล เพราะถ้าเป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ ถือไปเที่ยวไม่ปิดฝาเลนส์ เปิดมาปุ๊บก็ถ่ายเลย แต่พอเป็นคอมแพค ก็ต้องรอให้เลนส์ยืดออกมาก่อน ค่อยได้ถ่าย แพมรู้สึกเห็นได้ชัดว่า RX100 VI เปิดกล้องไวกว่ามาก เพราะกดปุ๊บเลนส์ขยายมา 1 จังหวะก็ได้ถ่ายเลย ส่วน LX10 เปิดมา ต้องรอเลนส์ขยาย แล้วขยายอีก รวมเป้น 2 จังหวะ ช้ากว่านิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีผลในการถ่ายรูปมากนัก แต่ถ้าเราปิดเปิดถ่ายบ่อย ก็อาจจะหงุดหงิดตอนรอนิดนึ่งได้

นอกจากนี้สำหรับการจบหลังกล้อง ไฟล์ Jpeg ที่ได้จาก RX100 VI ก็ดูมีคุณภาพมากกว่าชัดเจน คือไฟล์ดีมาก แพมเคยเทียบกับ Olympus EP-5 ที่เป็น Micro 4/3 ซึ่งเซนเซอร์ใหญ่มากกว่า แน่นอนว่าก็ต้องเบลอกว่ามากด้วย ผลคือ RX100 IV ตอนนั้นที่เทียบใช้ M4 นะ คือว่าถ่ายเล่นๆ บนที่นอน ตรงผ้าปูที่นอน แล้วเอามาลงคอมเทียบกัน ดูว่าเราจะเก็บตัวไหนไว้ใช้งานดี พอเราซูมเข้าไป คือบอกได้เลยว่า RX100 IV ชนะเกิน Micro 4/3 มากๆๆๆ แบบว่าเห็นละเอียดชัดทุกพิกเซลเลย เห็นลักษณะการทอผ้าชัดเจน ในขณะที่ Olympus จะดูเบลอๆ กว่าไปเลย อันนี้คือเทียบตรงที่เราโฟกัสเลยนะครับ และต้องเข้าใจว่า ความละเอียดของ Olympus แค่ 16 เมื่อเทียบกับ Sony ที่ 20MP แต่เมื่อเราซูมแบบว่า 2 เท่า เท่ากัน คือจะเห็นชัดเจนเลยว่า มิน่า RX100 ถึงฮิตและขายดี และทำไมราคาแพงจัง

กลัมมาที่ RX100 VI รุ่นที่มี F เริ่มที่ 2.8 กัน จะเห็นเลยว่า ไฟล์ก็ดีกว่า Pana ที่ F 1.4 เช่นกัน

ถ่ายแบบ RAW ไม่ได้ทำอะไรต่อ แล้ว Crop มาให้ดูครับ ตอนนี้ยังไม่มีรูป เพราะยังไม่ได้ออกทริป ไม่มีเพื่อนไปด้วย ใครไปทริปไหนอย่าลืมชวนด้วยนะ อิอิ

อันนี้ Sony RX100 VI F2.8 อันนี้ Pana Lx10 F1.4 สังเกตว่าโฟกัสที่คำว่า Auto สีฟ้าบนเครื่องฟอกอากาศเหมือนกัน ของ RX10 VI จะดูมีรายละเอียดเยอะกว่า คมกว่า ทั้งๆ ที่เป็น F2.8 ห่างจาก F1.4 ไปไกลมาก

เพิ่งได้มา ยังไม่ได้ออกทริปอะไรเลย รูปนี้ก็เลยกดเล่นๆ ตอนนั่งกินข้าวอยู่ข้างทาง และตอนนี้คือ คิดว่าคงเก็บ RX100 VI ไว้ใช้งานหลักแล้วล่ะ เพราะรู้สึกว่าไฟล์ดีกว่าจริงๆ และซูมได้ไกลกว่า ทำให้ถ่ายแล้วได้ภาพมุมมองเยอะกว่าด้วยนะ ลูกเล่นก็เยอะกว่ามากด้วย

หากเราถ่ายรูปแล้วย้ายลงคอมบ่อยๆ ถ้าเป็น RX100 เวลาเราเสียบสายมันก็จะชาร์จให้เลย พอเรากดเปิดเครื่องมันก็เข้าสู่โหมดเชื่อมข้อมูลโดยเลนส์ไม่ยื่นออกมาเพราะมันรู้ว่าเราเสียบสายอยู่ แต่ถ้าเป็น Panasonic เลนส์จะยื่นออกมาแปปนึ่งแล้วหดเข้าไปใหม่ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นแบบนี้

ถ้าจะดูรูปในกล้อง ถ้าเป็น Sony หรือ Olympus ด้วยไหม ไม่แน่ใจ เพราะเลิกใช้กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ไปนานมาก เวลาเราจะดูรูปเฉยๆ โดยไม่อยากให้เปิดกล้องมาถ่ายให้เลนส์ยื่นออกมาให้เสียแบตเปล่าๆ ก็กดตรงปุ่ม Play ค้างไว้ เราก็จะเปิดเครื่องได้ โดยเลนส์ไม่ยื่นออกมา แต่ Panasonic ที่ใช้อยู่ทำไม่ได้นะ จะเปิดคือเลนส์จะยื่นออกมาเลย ถ้าไม่ถ่าย มันก็หดกลับอาจจะเปลืองแบตหน่อย

ก็รีวิวสั้นๆ เท่านี้ เพราะก่อนซื้อ 2 รุ่นนี้ หารีวิวเทียบยากมาก เลยต้องมาทดลองเองเลย อิอิ

รูปนี้ถ่ายนานมาก เมื่อเกือบ 8 ปีที่แล้ว แต่ก่อนใช้ Olympus ถ่ายรูปออกมาเยอะมาก เลนส์ก็เยอะมาก Olympus ลองเปลี่ยนมารุ่นไหนก็คล้ายๆ เดิม ยิ่งฟังชั่นเยอะยิ่งหนักแต่ก็ไม่ค่อยจำเป็น อิอิ เลยชอบ EPM2 ที่เบาสุดของโอลิมปัส ตั้งแต่เซนเซอร์ 16 ล้านมาใหม่ๆ ตอนนี้ก็ไม่เห็นรุ่นเปลี่ยนเลนส์ได้แบบตัวเล็กๆ แล้ว มีแต่ EPL10 แล้วก็ไม่ได้ถ่ายรูปสวยๆ ตามมุมมหาชนเลย ทำงานๆ อย่างเดียวตอนนี้ก็กำลังรื้อฟื้นการถ่ายรูปให้กลับมาได้สวยๆ เน้นใช้กล้องเล็ก อาจจะยากหน่อย ไม่เหมือนกล้องใหญ่ที่กดออกมายังไงก็สวย ก็ฝากติกตามเป็นกำลังใจด้วยนะครับ

ฝากเพจน้อยๆ ด้วยนะครับ

และยูทูปด้วยนะครับ

มาถ่ายดวงจันทร์กัน

โควิดนี้ ไปเที่ยวไหนไม่ได้ ออกไปกินข้าวกับเพื่อนก็ไม่ผลอดภัย จะบอกว่าตั้งแต่ปีใหม่นี้ แทบจะอยู่แต่บ้าน ซื้ออาหารมาตุน เพราะเมื่อหิวตอนดึกๆ 5 ทุ่มแบบนี้ออกไปหาซื้อไรกินก็ไม่ได้ ร้านสะดวกซื้อก็ไม่เปิด โควิดมันคงติดเชื้อตอนดึกๆ หรือป่าวนะ อิอิ

เมื่อเราอยู่แต่บ้าน ก็เหงาๆ เซงๆ บ้างแหละ มีกล้องซื้อมาก็ไม่ได้ไปถ่ายไหนเลย อยากจะขายๆ ให้หมด เพราะไม่ได้ใช้งานจริงๆ ไหนๆ ก็มีแล้ว หยิบมาถ่ายดวงจันทร์กันดีกว่า ภาพนี้ถ่ายอยู่กรุงเทพนะ ถ่ายได้ถึงแม้แสงจากในเมืองจะเยอะหน่อย แต่ก็จะไม่สวยเท่าถ่ายต่างจังหวัดที่มืดๆ

วิธีการถ่ายดวงจันทร์และดวงดาว

ทั้งการถ่ายดวงจัทร์หรือดาว มีหลักการคล้ายๆ กัน คือต้องเปิดรูรับแสงให้ได้มากที่สุดในเวลาจำกัดประมาณไม่เกิน 1 วินาที เพราะดวงจัทร์และดาวต่างๆ บนฟ้าล้วนเคลื่อนไปช้าๆ เราอาจจะเห็นว่ามันอยู่กับที่ แต่ความจริงมันค่อยๆ เคลื่อนไป ดังนั้น สำหรับดวงจันทร์ที่มีความสว่างเยอะ ขาตั้งกล้องก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไร่ ถือกล้องนิ่งถ่ายยังง่ายกว่า

แต่สำหรับดวงดาว เพราะความสว่างน้อยกว่ามาก ต้องใช้ขาตั้งกล้อง และเปิดรูรับแสงไม่นาน ไม่เกิน 8 วินาที เพราะไม่งั้นดาวจะเป็นเส้น

มือถือก็ถ่ายได้นะ ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง เปิดรูรับแสงเยอะๆ เร่ง ISO ขึ้นหน่อย เพื่อให้ภาพไม่สั่น ถ่าย RAW ด้วยยิ่งดี เพราะเราจะได้มา process ทีหลัง ได้ภาพสวยๆ

กล้องที่มีความยาวโฟกัสเยอะๆ จะถ่ายดวงจันทร์ได้ใกล้มาก อย่างแพมใช้ Olympus ซึ่ง ความยาวโฟกัส 600mm*2 ของแบบฟูลเฟรม ก็จะได้ 1200mm เลยทีเดียว

Travel by Xperia

เที่ยวตัวเบากับ Sony Xperia เพราะไปเที่ยว ไม่ได้ไปทำงาน หยุดงานทั้งทีก็อยากพักผ่อนเต็มที่ ไม่อยากแบกกล้องหนักๆ เลนส์ใหญ่ๆ ก็ได้ภาพสวยๆ ได้เที่ยว ได้สัมผัสบรรยากาศเต็มที่ แพมใช้ Sony Xperia ไปเที่ยวด้วยตลอด แต่อยากได้คลิปดีๆ ด้วย ก็ต้องเอากล้องเบาๆ ไป Sony ZV-1F เบามาก แต่ได้คลิปที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด เสียงชัด คลิปไม่สั่น ที่แพมต้องการ เมนูแบบใหม่ งงมาก ทั้งที่ใช้ Sony มาตลอด UI แทบจะเปลี่ยนไปเลย แต่ปุ่มและที่ๆ ต้องไปปรับยังพอเดาว่าอยู่ตรงไหน เพราะหมวดหมู่ต่างๆ ยังคล้ายเดิม

#SonyXperia
กล้องในมือถือ Sony Xperia ทำให้การถ่ายรูปสนุก เพราะเราสามารถควบคุมกล้องได้เหมือนเราถือกล้อง DSLR ไปเที่ยวด้วย เพราะที่แตกต่างจากมือถือรุ่นอื่น

ถาดซิมและ SD Card ถอดออกมาได้เลย โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ ทำให้ง่ายเหมือนเราเปลี่ยนเมมกล้อง และการเก็บรูปในเมมก็ดีกว่าเก็บในเครื่อง เพราะแพมเคยทำเอามือถือไปดำน้ำด้วย เครื่องพัง แต่ยังได้รูปเพราะเก็บไว้ในการ์ด

Ram Rom สมัยนี้ไม่สำคัญ เพราะเพียงพอ และยังประหยัดพลังงานเมื่อเทียบกับแรมสูงๆ และรอมก็พอแล้วใช้การ์ดดีกว่า

เที่ยวคนเดียวก็ถ่ายรูปสวยๆ ได้ ถ่ายยังไงให้เริดๆ

แพมเป็นคนที่แบบว่าถึงแม้ส่วนมากจะเที่ยวกับเพื่อนหลายๆ คน ก็มักจะถ่ายรูปอยู่คนเดียว ไม่ใช่เพราะสนุกที่จะอยู่คนเดียว แต่เพราะเราเกรงใจเพื่อนที่จะมาถ่ายรูปให้เรา ไม่อยากให้คนอื่นลำบาก วันนี้จึงมีวิธีแนะนำสำหรับคนอื่นๆ ที่ไปเที่ยวคนเดียว แต่อยากได้รูปสวยๆ


รูปส่วนใหญ่จึงเป็นรูปเซลฟี่ หรือจะมีมือข้างนึ่งถือมือถือที่เป็นชัตเตอร์ให้กล้องอีกตัวทำงานอยู่ด้านหน้า ไม่ใช่เพราะเราชอถ่ายเซลฟี่ตอนไปเที่ยว ใครไปเที่ยวก็อยากได้รูปที่มีวิวทิวททัศน์สวยๆ ทั้งนั้น แต่เพราะความเกรงใจของเรา เราก็ต้องหาวิธีการถ่ายของเราที่ให้คนอื่นไม่ต้องมาเดือดร้อนกับเรา

ส่วนรูปเพื่อนที่ไปด้วย แน่นอนว่าเราชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว เราก็อยากถ่ายให้เขา แต่แพมก็จะมีมุมของแพม ซึ่งเราถนัดของเราแบบนี้ เพื่อนบางคนอยากได้รูปที่ต่างออกไป หากมองว่ารุปเราไม่สวย ใครเขาจะอยากถ่ายให้อีก จริงไหม

วิธีการเที่ยวคนเดียว ถ่ายยังไงให้สวย ได้วิวมา ง่ายนิดเดียว แพมจะเป็นคนที่ชอบเที่ยวตัวเบาๆ ด้วยของน้อยชิ้นมากที่สุด ดังนั้นกล้องแพมจะเล็กจิ๋วมาก ปกติจะใช้แแต่ Sony RX0 II เอาขาตั้งกล้องจิ๋วๆ ไปอันนึ่ง แล้วเชื่อมกับมือถือ สั่งงานกล้องผ่านมือถือ Sony Xperia แล้วเราก็กดถ่ายเองตามใจชอบของเราเลย หรือไม่หากรีบก็เซลฟี่ในจุดนั้น แล้วเอาเวลาไปถ่ายในจุดอื่นๆ เพราะเราก็ต้องทำเวลาด้วย จะได้ไปเที่ยวที่อื่นต่อ

ถ่ายรูปอย่าลืมถ่าย RAW นะ จะได้ไปปรับแสงและเงาทีหลังได้ดี

ถ้าออกไปเที่ยว ปกติจะไม่ได้ถือขาตั้งกล้องไป ก็เลยวางตามพื้น วางตามโต๊ะ ไปมั่วๆ อิอิ

ถ้าไม่ถือมือถือ มือก็ถือรีโมทครับ เพราะมือถือ จะเป็นรีโมท แต่จะไม่มองภาพบนหน้าจอก็ได้ แค่กดปุ่ม shutter ของมือถือ ได้เหมือนกัน แต่ถ้ามองมือถือมันง่ายกว่า พอดีลองถ่ายแบบไม่มองล่ะ รูปยิ้มไม่สวยครับส่วนใหญ่ หน้าตาไม่ค่อยดี และของที่ถือไปเที่ยว มีเพียงกระเป๋าแบนๆ 1 ใบ เลขต้องลดสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกครับ

จะถือมือถือแบบให้เหมือนรีโมท ก็ได้ประมาณนี้ครับ จะเห็นมือถือถืออยู่ แต่จริงๆ กดที่ปุ่มชัตเตอร์มือถือ

สำหรับประสบการณ์ก็จะเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่างเช่น Xperia XZ Premium, Xperia XZ1, Xperia XZ2, Xperia XZ2 Premium, Xperia XZ3 ที่ได้ใช้งานมาก่อนหน้านี้ บอกแล้วว่าเป็นสาวก โซนี่ เพราะใช้แล้วไม่เคยผิดหวังเลย และทุกอย่างที่โซนี่ออกแบบมักสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้

หน้าจอ 4K 21:9 รุ่นแรกของโลก ซึ่งมีความเนียนมากกว่า และสวยงามกว่ารุ่นก่อนๆ จริงๆ และหากดู Youtube จะเห็นความแตกต่างจาก XZ3 ที่ใช้จอ OLED เหมือนกันอย่างชัดเจน ทั้งความเนียนที่มากกว่า และอาจจะเป็นด้วยการประมวลผลของทั้งซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ หรือการ์ดจอที่ให้ภาพที่มีการไล่โทนสีหรือ color gamut จะมีความเนียนมากกว่า หรือมี bit สูงกว่า

ด้านลำโพงที่มีระบบเสียง Dolby Atmos เข้ามาด้วยนั้น รู้สึกได้เลยถึงเสียงที่มีความก้องกังวานและดูเป็นเสียงรอบทิศทางมากกว่า XZ3 แต่ข้อเสียคือลำโพงที่อยู่ตรงด้านล่างใกล้กับรูชาร์จ มักจะโดนมือบังบ่อย และเสียงจะออกทางด้านข้างในส่วนนี้ ดังนั้นหากปิด Dolby Atmos จะรู้สึกว่าเสียงไม่มีมิติและออกไปทางด้านข้างซะมากกว่า แต่แพมชอบปิดเพราะ Dolby Atmos ฟังแล้วดูหลอกๆ เสียงขาดความคมชัดไปส่วนหนึ่ง แพมจะเปิดเฉพาะ DSEE HX

ดังนั้น ส่วนของระบบเสียงและลำโพง ถ้าในดีที่สุดในเวลานี้ ส่วนตัวชอบ XZ3 ที่สุด เพราะให้เสียงที่ดังและเป็นแบบ Font Facing Speaker ที่เสียงพุ่งมาให้ผู้ฟังเลย โดยเฉพาะขณะรับชมวิดีโอหรือเล่นเกมส์

ช่องเสียบหูฟัง 3.5 ไม่มีเช่นเคย แต่มีสายแปลงช่อง USB ให้ แต่แพมไม่ได้สนใจ เพราะใช้ไร้สายไปแล้วที่สะดวกกว่า ไม่ต้องมาคอยระวังสายให้เกะกะ คุณภาพเสียงก็ถือว่าดีเยี่ยม ด้วยระบบ LDAC ที่อาจเป็นระบบที่มีมานาน แต่ทางโซนี่เหมือนเพิ่มรายละเอียดให้เสียงดูมีน้ำหนักและคมชัดยิ่งขึ้น เพราะเคยเทียบกับมือถือหลายรุ่น เวลาเราต่อฟังเพลงในรถ เสียงจาก Sony จะฟังแล้วมีคุณภาพที่สุด ด้วยเบสที่หนักและเสียงสูงคมชัด และเสียงกลางที่มาครบ ในขณะที่รุ่นอื่นๆ จะเหมือนส่งข้อมูลมาเฉยๆ โดยไม่มีการปรับแต่ง และฟังแล้วขาดมิติ

ตั้งแต่ใช้โทรศัพท์มาหลายเครื่อง รู้สึกว่า Xperia 1 ให้เสียงที่ถ่ายทอดออกมามีรายละเอียดมากที่สุด ถึงแม้จะไม่ดังเท่าค่ายอื่นๆ

ปกติแล้วล็อกหน้าจอ แพมจะใช้แต่สแกนลายนิ้วมืออย่างเดียว เพราะรวดเร็วและแม่นยำกว่าการปลดล็อกแแบบอื่น ที่เหมือนดูเป็นการโชว์ความก้าวล้ำในเทคโนโลยีมากกว่า เพราะสุดท้ายเราก็ใช้สแกนลายนิ้วมืออยู่ดี

ยังดีที่ Xperia 1 ให้การสแกนลายนิ้วมือแบบปกติ เพราะทำการได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าแบบที่อยู่ใต้จอของมือถือรุ่นใหม่ๆ

ตัวสแกนลายนิ้วมือของ Xperia 1 ทำได้ช้ากว่ารุ่นก่อนหน้า จะไม่ค่อยแม่นยำ เพราะด้วยแถบสแกนที่เล็กและเรียว สามารถสแกนลายนิ้วมือได้อย่างเดียวไม่สามารถกดได้เหมือนรุ่นก่อนๆ ของ Sony ที่เคยทำอย่าง Xperia XZ Premium ที่ขายดีมาก หรือ Xperia XZ1 บ่อยครั้งที่สแกนลายนิ้วมือไม่ติด ซึ่งต่างจาก XZ3 ที่ตัวสแกนใหญ่กว่าและทำให้สแกนง่ายกว่า และสแกนไม่เคยพลาด

กล้องหลังมีมาให้ 3 ตัว ในข่าวลือหลายที่คาดว่า Xperia 1 จะมาพร้อมกับระบบที่ถ่าย RAW ได้ พอได้จับของจริง ข้อเสียคือ ยังถ่าย RAW ไม่ได้ ในขณะที่ค่ายอื่นเขาถ่ายได้กันหมดแล้ว อาจเป็นเพราะระบบตัวประมวลผลของกล้องที่ถ่ายแล้วเซฟ Jpeg มาให้เลย

ระบบกล้องทางโซนี่เคลมว่ายกระบบมาจากกล้องตระกูล Alpha ที่เป็นกล้องระดับมืออาชีพ เป็นกล้องมือถือตัวแรกของโลกที่สามารถจับโฟกัสที่ดวงตา กล้องทั้งสามตัวมีขนาดเซ็นเซอร์ 12MP เท่ากัน แต่เพียงพอ และประหยัดเนื้อที่ด้วย เพราะเที่ยวเยอะมากจนไม่มีที่เก็บ

เลนส์​ 26mm ซึ่ง​เหมาะ​สำหรับ​ถ่าย​ภาพ​ทั่วไป ใกล้เคียง​กับ​กล้อง compact เช่น rx0 และ rx100​ ที่ 24mm

  • ภาพถ่าย OIS
  • มี Optical SteadyShotTM (ระบบป้องกันการสั่นไหววิดีโอ OIS/EIS แบบไฮบริด)
  • ระบบลบสัญญาณรบกวนแบบ RAW
  • วิดีโอซูเปอร์สโลว์โมชัน 960 เฟรมต่อวินาที (FHD/HD)

ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะอยุ่เฉพาะที่กล้องหลัก กล้องรองทั้งสองตัว มี​สเปกด้อยกว่ากล้องหลัก แต่ภาพที่ได้ก็แตกต่างดังนั้นต้องใช้ให้ครบ

ดังนั้น​ภาพ​จะ​ได้​คุณภาพ​ดี​ที่​สุด จาก​กล้อง​หลัก​ 24mm

กล้องที่เป็น Tele ข้อเสียคือ เวลาถ่ายรูปใน Live View เราจะเห็นว่ารู้สึกเบลอ ถึงแม้จะโฟกัสแล้ว อาจเป็นที่ซอฟแวร์กล้องที่อาจต้องรอการแก้ไข แต่เมื่อมาดูรูปที่ถ่ายแล้ว มีความคมชัด สวยงาม จะยากในตอนเฉพาะเวลาที่ถ่าย เพราะเราไม่รู้ว่ามันโฟกัสเข้าหรือยัง

ส่วนกล้องเลนส์ Normal และ Wide ระบบถ่ายภาพปกติไม่มีปัญหา

เมื่อถ่ายภาพรู้สึกว่าระบบเซฟภาพช้ากว่า LG V50 ที่ใช้อยู่เล็กน้อย

ภายถ่ายจาก Xperia

ภาพจากเลนส์ Wide

กล้องของ Xperia ถือว่าสวยมากในสายตาของผม ยิ่งหากดูในมือถือแล้วมี X1 for mobile จะดูสวยงามมาก พอเอามาลงคอมสวย แต่ไม่เท่ามือถือ มาดูภาพในคอมจะเห็นว่ารูปผ่านการปรับแต่งด้วยอัลกอริทึมของโซนี่ มาเยอะมากตั้งแต่ตอนถ่ายเลย

กล้องหน้ามีโหมด เซลฟี่หน้าสวย ซึ่งเริ่มมีตั้งแต่ XZ3 ให้หน้าสวยแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหลอกมากเกินไปเหมือนค่ายอื่นๆ

แบตเตอรี่ รุ่นนี้ถือว่าให้มาเยอะพอใช้งานทั้งวัน ด้วยตัวเครื่องที่บางและแบตแบบ Lithium ion Polymer ที่ Sony ได้เปลี่ยนมาใช้ตั้งแต่ Xperia Z5 ซึ่งมีความปลอดภัย ซึ่งจะกินพื้นที่เยอะกว่าแบบ Lithium ion ที่จุพลังงานได้มากกว่าและราคาถูกกว่าแบบ Lithium ion Polymer

โทรศัพท์ที่แพมเลือกใช้ก็จะดูแบตก่อนว่าเป็น Lithium ion Polymer ไหม ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ตัวนี้กันมากแล้ว เพื่อปลอดภัย

ข้อเสียคือ Xperia 1 ไม่สามารถชาร์จไร้สายได้ ดังนั้นเครื่องชาร์จไร้สายของ Sony ก็จะใช้ได้ในรุ่น XZ3 แทน

เครื่องชาร์จที่แถมมาด้วยเป็นรุ่นใหม่ ไม่มีสาย USB ให้ต่อกับคอมได้ ต้องหาซื้อแยกต่างหาก

แบตอยู่ได้นานมาก โดยไม่ต้องเปิด Stamina และมี Qnovo adaptive charging ที่ทำให้แบตของโซนี่เสื่อมช้ามากๆ

Xperia 1 II

ภาพสวยเหมือนเดิม มาแบบเบลอๆ เหมือนไม่คม แต่ดีล่ะดีกว่าอัด Sharpen มา ยังไม่รุ้สึกดีกว่ารุ่นก่อนๆ โฟกัสยากไปหน่อยนึ่ง Camera Pro เข้าไม่ได้ ยังไม่อัพเดทมาเลย 😭😭😭

Xperia 5 ถ่ายง่ายกว่า สีสดกว่านะ โฟกัสเร็วกว่าด้วยนะ

https://www.youtube.com/watch?v=EMqgyJjrY8k

https://www.youtube.com/watch?v=7QiYou2dkM0

ทำแบบนี้แล้วมันดียังไงงั้นแพมถามกลับ ทำไมเราต้องเปลี่ยนมือถือบ่อยๆ ทั้งที่ของเดิมก็ยังใช้อยู่ อยากเปลี่ยนไปใช้สิ่งที่มันดีกว่ามีตอนนี้ อาจจะดีขึ้นนิดเดียว แค่ได้ใช้ก่อนใคร หรืออยากไปลองอะไรใหม่ๆ มันก็เหมือนเราเปลี่ยนมือถือใหม่ ทั้งที่ของเดิมกับของใหม่ มันไม่ได้ห่างจากความจำเป็นในการใช้งานเลย นั่นแหละครับคำตอบ
แต่ไม่ต้องกังวล เพราะมันไม่ได้ยาก แค่ต้องรอให้ flash tool มันอัพเดตรุ่นใหม่ๆ เข้ามาก่อนครับ ใจเย็นๆ เครื่องยังไม่พังนะ

z z1 z2 ขอบ​จะ​คม
z3 ขึ้น​มา​ขอบ​จะ​มน
และ xz premium​ เป็น loop surface
xperia​ 1ii ชอบ​ุมันจะผสม ระหว่าง​สี่​เหลี่ยม และ​ความ​มน​ ต้อง​จับ​ดู​จะ​รู้​ครับ ว่า​เป็น​ดีไซน์​ใหม่

เมื่อเทียบกับรุ่นท็อป Xperia 1

สิง่ที่ได้

  • ดีไซน์
  • Gorilla® Glass 6
  • หน้าจอ 21:9
  • จอ OLED
  • Video Image Optimization, Triluminous display for mobile
  • คุณภาพของวิดีโอที่คมชัดเมื่อดู Youtube ไม่รู้ว่ามี X1 for mobile ไหม
  • กันน้ำ

สิ่งที่ไม่ได้

  • หน้าจอ HDR
  • ขอบโลหะ
  • X1 for mobile
  • ถ่าย Super Slow Motion
  • ปุ่มซัตเตอร์
  • คุณภาพของภาพถ่าย
  • ความละเอียดของกล้อง

ผมว่า xperia 10ii ภาพสวยกว่า S20 ที่ใช้อยู่อีกนะครับ อย่างน้อยอัลกอลิทึมที่ใช้โหมด Auto ก็ดีกว่า WB ก็สวยกว่า S20 ถ่ายแล้ว ภาพฟ้า ภาพม่วง เพราะมันพยายามปรับให้ตรงสีขาว แต่ก็ไม่ตรงสักที ออกเพี้ยนไปหน่อยนึ่ง แต่ Xperia จะปรับมาตามแสงรอบข้างที่ควรจะเป็น เช่น ใต้แสงสีเหลือง ภาพก็จะเหลืองสวย เดี่ยวขุดหาไฟล์ก่อน อยู่ไหนไม่รุ้ อิอิ

ภาพไม่คมเท่าเจ้าอื่น แต่สี โทนมันได้อ่ะ เพราะอยากถ่ายมาลงเฟสแบบว่าความละเอียดเกินๆ แล้วครับ S20 แพมนี่ไลฟ์สดแล้วหน้าพังมาก ส่วนถ่ายตัวเอง ปิด Effect ทุกอย่าง ตายังโต อัดความคมชัดไปเยอะเกิน ทั้งที่ตัวเองหน้าเนียนๆ กลายเป้นริ้วรอยขึ้นมาเต็มเลย ต้องใช้เอฟเฟคหน้าเนียน +8 เข้าช่วย ภาพออกขาวๆ เหมือนผ่านแอป แต่ sony จะได้สกินโทนเหลือง เนียนนุ่มกว่า ตาเล็กไม่หลอก แต่ Video 4K กล้องหน้า S20 กลับได้ WB ตามแสงสีเหลืองที่สวย แต่ภาพนิ่งเป็นอีกแบบอย่างที่ว่า ทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง ไปขุดมาล่ะมีเท่านี้ อิอิ

ายสินค้ากับพรีเซ็นเตอร์ ให้สวยแบบมืออาชีพ

หลังจากที่เราถ่ายรูปเที่ยวกันจนเหนื่อยแล้ว ก็ถึงเวลาทำมาหากิน กลับมาขายของกันต่อ มาหัดถ่ายรูปสินค้า ถ่ายพิกให้สวยๆ ดูน่าซื้อกันไปเลย

ก็เป็นบทความแรกที่จะมาแนะนำการถ่ายรูปสินค้า ปกติไม่เคยเขียนแบบนี้มาก่อน เพราะแพมเห็นหลายคนที่เริ่มสร้างแบรนด์โดยเฉพาะลูกค้าแพม จ้างช่างกล้องกันใหญ่เพื่อถ่ายภาพในการขายสินค้า ซึ่งจริงแล้วในปัจจุบัน เราทำเองก็ได้ กล้องราคาไม่แพงก็ได้ไฟล์คุณภาพเริดๆ ได้แล้ว จะให้นางแบบโพสยังไงก็ตามใจเราได้สบายใจกว่า ที่สำคัญประหยัดเงินไปมากกกๆๆๆๆ

โพสนี้อาจมีรูปสินค้าเยอะหน่อยนะครับ ไม่ได้ตั้งใจขายสินค้า แต่เพราะรูปที่เราถ่าย ไม่เคยถ่ายให้งานอื่น เพราะไม่มีใครมาจ้าง อิอิ ก็มีแต่งานตัวเองทั้งนั้น

ถ่าย​ยังไงให้ปัง​

ในการถ่ายรูปที่มีทั้งนางแบบและสินค้าอยู่ด้วยกันแบบนี้ หลายคนอาจจะเข้าใจผิดมักถ่ายให้นางแบบดูสวยและเด่น แต่แพมแนะนำว่าสินค้าควรเด่นกว่า เพราะเราต้องการขายสินค้า ดังนั้นสินค้าจะต้องคมชัดอยู่ในโฟกัส และอยู่ในจุดตัด 3 ส่วน ส่วนนางแบบจะเป็นตัวรองลงไป ซึ่งใบหน้าของนางแบบก็จะมีส่วนทำให้สินค้าดูน่าสนใจ

ผู้หญิงทุกคนมีความสวยอยู่ในตัว แล้วแต่ว่าเราจะดึงเอาจุดเด่นตรงไหนออกมา

เลือกนางแบบ

ดังนั้นในจุดนี้ นางแบบจะมีส่วนช่วยให้สินค้าดูน่าซื้อ อาจจะเป็นคนสวยคนหล่อ แต่ก็ไม่สำคัญเพราะทุกคนมีความสวยอยู่ในตัว แพมจะเน้นผิวดีมากกว่ามาก่อน หรือคนที่หน้าดูเก๋ๆ ยิ่งดูดีกว่า และดูแปลกตากว่า ทำให้ดูน่าสนใจขึ้น แพมจึงเลือกใช้นางแบบโดยไม่เน้นชื่อเสียง เพราะถ้าใช้นางแบบที่มีชื่อเสียง แม้ว่าจะได้ผลเพราะได้ความน่าเชื่อถือ แต่เราก็ต้องจ่ายเงินไปมากมาย เพราะค่าตัวแพงๆ ทั้งนั้น คนจะจดจำแค่นางแบบ สินค้าเราก็อาจถูกกลบ ไม่ถูกจดจำ นึกง่ายๆ เลย ดาราชื่อดังคิดในใจมา 1 คน เรารู้หรือเปล่าว่าเขาโฆษณาแบรนด์ใหม่ๆ อันไหนบ้าง ไม่นับรวมแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักนะ เพราะแบรนด์เหล่านั้นเขาสร้างการจดจำมานานมากแล้ว

ท้ายที่สุด ในยุคนี้ ลูกค้าไม่ได้เลือกซื้อสินค้าตามที่ดาราใช้ หรือโฆษณา แต่เลือกใช้แบบฉลาดเลือกว่าเหมาะกับผิวเขาจริงๆ

นางแบบของแพมเลือก อาจจะเป็นคนใกล้ตัวผู้หญิง ผู้ชาย ได้หมดแค่ผิวดีๆ พอ เช่น พี่สาวและเพื่อน มีข้อดีคือเราไม่ต้องเสียเงินมากมายเพื่อจ้างให้มาถ่ายรูป เพื่อนกันอาจแค่เลี้ยงข้าวให้สินค้าไปใช้ก็ได้แล้ว นอกจากนี้ยังทำให้เพื่อนสนุกไปกับการถ่ายแบบไปอีก

รวบผม
ผมที่ยาวและทรงผมมีส่วนทำให้ดึงจุดเด่นของสินค้าออกไป แพมก็จะเลือกให้รวบตึงดีกว่า

ไม่แต่งหน้า
หน้าสด คือสวยสุด เราเน้นขายสกินแคร์ เราก็ต้องใช้หน้าสดเลย เน้นผิว หรือาจมีบางภาพที่แต่งหน้านิดหน่อย แต่ก็จะดึงความสนใจของสินค้าไปเล็กน้อย

บางภาพก็มีการแต่งหน้าบ้างเบาๆ บางทีนางแบบไม่มั่นใจหน้าสด

เพื่อนแพมผู้ชาย เต้ย เรียนจบด้านแฟชั่น เสื้อโค้ทน้ำเงินที่ใส่ถ่าย เขาเป็นคนตัดเอง เป็นธีมที่บอกว่าพกไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบหน้าไม่ลอก เรียกได้ว่า หาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวให้ใช้ประโยชน์ได้เลย

ถ้าไม่รู้จักใครเลย
น้องๆ ที่ทำงานฟรีแลนด์สวยๆ เยอะมาก ในกลุ่มที่เขาหานางแบบกันแพมว่าคิดแพงไปหน่อย แนะนำถามเพื่อนๆ มีใครที่รับฟรีแนด์ออกงานต่างๆ เช่น ชงน้ำชาอยู่ห้าง แจกตัวอย่าง อยู่บูทชงชิมต่างๆ น้องเขาคิดไม่แพงเลย เพราะปกติเรทที่เขาได้ก็ไม่แพง และเขาไม่เกี่ยวเรื่องเงินเท่าไร่ ทำแล้วมีรายได้เสริมก็โอเค แต่เราอาจให้เยอะขึ้นหน่อย ถือว่าเป็นทุนการศึกษา ก็มีความสุขไปอีก

ตั้งค่ากล้อง

หากเราเชี่ยวชาญในการแต่งภาพแบบ RAW ก็เลือกใช้ RAW แต่แพมจะแนะนำว่าในตอนนี้ กล้องให้เราถ่ายแบบ Jpeg ให้เลือกแบบความละเอียดสูงสุด และเลือกคุณภาพดีสุดแบบ Extra Fine เพราะเราจะได้ใบหน้าสวยๆ ที่กล้องประมวลผลให้เลยว่าต้องลบริ้วรอย หรือจุดด่างดำยังไง ให้นางแบบดูสวยขึ้นแบบฟุ้งฟริ้งง่ายๆ ไปเลย ทั้งยังประหยัดเวลา ไม่ต้องมาแต่ง RAW ที่วุ่นวาย

แต่ถ้าถ่ายสินค้าอย่างเดียว เลือก RAW อาจจะเหมาะสมกว่า เพราะเราสามารถแต่งได้หลายรูปแบบ ภาพที่ได้ก็มีคุณภาพกว่า (แต่ไม่มาก) บางทีเราอาจจะครอปไปใช้ในงานอื่น ภาพก็จะดูคมชัดกว่า (แต่ก็ไม่มากอีกเช่นกัน)

F น้อยสุด
ถ่ายบุคคล มักใช้รูรับแสงกว้างสุด หมุนไปที่โหมดรูรับแสง A เลือกเลขน้อยสุด จะได้ภาพเบลอหลังสวยงาม และภาพคมชัด ไม่สั่นเบลอ

จะต่างกับถ่ายภาพสินค้าอย่างเดียว ที่ควรเลือก F4 ขึ้นไป เพราะจะทำให้องค์ประกอบสินค้าชัดทั้งหมด

ซูมไกลสุด
หรือระยะโฟกัสเลนส์ไกลสุด ถ้าเป็นเลนส์ฟิกก็เลือกตัวไกลๆ มาเลย ยิ่งเป็นมาโครไกลๆ ยิ่งสวย เช่น ถ้าใช้ของ Olympus แพมจะเลือก 60mm f2.8 Macro แทนที่จะเลือก 45mm f1.8 แต่เลนส์ตัวนี้ก็สวยเช่นกัน

สำหรับเลนส์ซูมได้ ก็หมุนไปเลยที่ระยะซูมไกลสุด โดยที่ไม่ต้องสนใจค่า F เพราะซูมไกลๆ เบลอสวยอยู่แล้ว

กล้องมือถือก็สวยได้
ภาพนี้ใช้กล้องหน้าถ่าย เพราะบางทีไม่ต้องไปหาซื้ออุปกรณ์ราคาแพงให้เสียตัง เราใช้สิ่งที่เรามีอยู่อย่างมือถือ ก็สวยได้ อาจใช้กล้องหลังตอนนี้ก็คุณดีกันไปหมดแล้ว เพราะตอนเราโพส คนดูไม่ได้ไปซูมดูสักหน่อย จริงม่ะ เพราะตอนนี้แพมใช้ส่วนใหญ่เลยก็กล้องมือถือทั้งนั้น หรือดีหน่อยก็กล้องคอมแพค กล้องใหญ่ๆ ขายทิ้งหมดล่ะ หนัก ไม่ได้ถือไปไหน นอนทิ้งอยู่บ้านก็สงสารมัน ขายดีกว่า

เลือกมุมถ่ายรูป

ก่อนอื่นให้เลือกมุมก่อนว่าสินค้ากับนางแบบจะอยู่​ในมุมไหน เน้นพื้นหลังเป็น​พื้นขาวเพื่อให้นางแบบและสินค้าดูชัดเจน​ คิดถึง​รายละเอียด​ของสินค้า​ก่อนว่าลูกค้าต้องการเห็นส่วนไหนก่อน​

หาองค์ประกอบเริดๆ
หาขันน้ำมาสักอัน สาดใส่หน้าให้ได้เริดๆ ก็ได้

ไม่ต้องใช้เงินเยอะ
ก็ได้ภาพสวย ง่ายๆ เลย ใช้ฉากหลังเป็นผนัง ถ้าผนังสีเทา ฉากหลังก็จะออกเทาๆ หน่อย หรือบ้านใครผนังสีส้ม ก็จะติดส้มหน่อย ไม่ต้องทำให้มันขาวเป๊ะแบบโฆษณาก็ได้

เพิ่มหลอดไฟเยอะๆ
แสงเยอะๆ จะทำให้ภาพไม่สั่นเบลอ ถ่ายต่อเนื่องได้สบายๆ

ใช้แสงนุ่ม
ยิงไฟเข้าผนัง แทนที่จะหันไปหานางแบบ เพราะจะได้แสงนุ่มนวล ถ่ายง่าย ถ้าเก่งแล้วค่อยเปลี่ยนมาใช้แสงแข็ง และแสงริมจากด้านหลังให้ดูเก๋ๆ แต่ส่วนใหญ่มักจะใช้งานไม่ค่อยได้ พอมาเทียบกัน แบบแสงนุ่มมักสวยกว่าตลอด

ผ้าม่านที่บ้าน
รูปนี้ถ่ายด้วยผ้าม่านแบบม่านม้วนสีเทา ซื้อที่ IKEA กับกล้องคอมแพคธรรมดา Sony RX100 แล้วก็เปิดแฟลชแบบแสงแข็งไปหน่อยครับ

ชุดเสื้อผ้า
หาเอาเท่าที่มีก่อน อย่าเพิ่งซื้อเปลืองเงิน แนะนำชุดสีพื้น จะได้ดูหรู ไม่ดึงความสนใจของสินค้า อาจจะเป็นเสื้อยืดก็ได้ ดูเรียบๆ ดี สำหรับของแพมเป็นสกินแคร์ ดังนั้น ผู้หญิงก็อาจใส่เกาะอก แล้วเราจะถ่ายเฉพาะส่วนข้างบนขึ้นไป ตัดรูปให้เห็นผิว ผู้ชายก็คล้ายๆ กัน

เลือกท่าโพส

มองไปที่สินค้า
นางแบบอาจจะให้ความสำคัญกับสินค้า แทนที่จะมองกล้อง ให้มองไปที่สินค้าเพื่อสร้างจุดชี้ให้คนดูมองสินค้า และจดจำ

เน้นความสดใส ร่าเริง อาจจะไม่ต้องโพสให้เป๊ะ เน้นหัวเราะ ส่วนแพมก็อาจจะกดกล้องแบบรัวๆ ตั้งถ่ายแบบต่อเลือกแล้วค่อยไปเลือกทีหลัง

หาวิกมาเยอะๆ
จะได้หลายๆ แนว

คิดคอนเทนต์
เช่น จะขายแชมพูก็ต้องจับผม

หัวเราะเยอะๆ
จะได้ดูสดใสๆ อันนี้คือรูปดิบ RAW จากกล้องเลย ที่ไม่ผ่านการแต่งใดๆ จริงๆ หลายช๊อตมากที่หัวเราะ ภาพจึงจะได้รอยยิ้มที่สวยธรรมชาติ อิอิ

ยิ้มเยอะๆ

ถ่ายแบบไม่มีสินค้า
เอาไว้ใช้ในบทความก็ได้ แต่คนจะจดจำแล้วว่าเป็นรูปจากสินค้าพิก

แต่งภาพ

เพิ่ม Vibrant
แพมมักเลือกโทนสีสดใส เพราะไม่อยากให้ดูวินเทจ อยากให้ดูทันสมัยและร่าเริง สดชื่น แต่จริงๆ ก็แล้วแต่ละคน

เพิ่ม Highlight
ฉากหลังขาวเราจะได้ดูสว่าง ไม่หม่นหมอง

เพิ่ม White
จะได้ดูเป็นมืออาชีพหน่อย

ลด Contrast
ผิวจะได้ดูงานดีขึ้นหน่อย อาจปรับแต่งผิวหน้าของนางแบบเล็กน้อยเพื่อความสวยงามมากขึ้น

Spot Removal
ลดจุดด่างดำนิดหน่อยพองาม

ตัดภาพ
ปกติแพมจะไม่เลือก 1:1 ถ้าแนวนอนก็นอนยาวเลย หรือแนวตั้งก็ตั้งยาวเลย แล้วแต่องค์ประกอบ

เดี่ยวบทความนี้จะยาวไป อิอิ จะมาสอนเพิ่มนะ

โพสขายของ

ท้ายที่สุด เลือกรูปเพียงรูปเดียวในแต่ละท่า บางคนไม่รู้จะเลือกรูปไหน อัพมาทั้งเซท แพมแนะนำไม่ต้องคนดูมาเลือกรูปแทนเรา เราถ่ายเรารู้ดีสุดว่ารูปไหนสวย ชอบอันไหนก็เอาเลย จะได้มีความสุข อิอิ

ตั้งกล้องถ่ายตัวเอง

สำหรับช่วงแรกยังหานางแบบไม่ได้ เอาตัวแพมเองนี่แหละเป็นพรีเซนเตอร์เลย ไม่ต้องจ้างใครให้ยาก อิอิ

ก็จบเพียงเท่านี้ สำหรับใครยังไม่เข้าใจตรงไหน ทักมาถามเลยจ้าที่เพจ และฝากสำหรับคลิปเที่ยวด้วยนะครับ