อันไหนน่าไป อันไหนไม่น่าไป ดูก่อนไป เผื่อดูแล้วอาจไม่ไปดีกว่า อิอิ
วันที่ 1
05.30 น. ออกจากที่พัก (โรงแรมเซนเตอร์พาร์ค นิมมาน)
จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน
ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ
ปางอุ๋ง
บ้านรักไทย
พักนงนุชรีสอร์ท บ้านรักไทย
วันที่ 2
9.00 น. ออกจากบ้านรักไทย
บ้านจ่าโบ่
ถ้ำปลา
ปาย
น้ำพุร้อนไทรงาม
เข้าที่พัก พักผ่อน (โรงแรมภูริปาย 5 คน) (โรงแรม B2 ปาย 3 คน)
ถนนคนเดินปาย
วันที่ 3
11.00 น. ออกจากที่พัก
บ้านสันติชล
เที่ยวแม่ริม
เชียงใหม่
Airport
ตั้งแต่ออกจากโรงแรมตีห้า ระหว่างทางผ่านสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ไม่ได้แวะที่เที่ยวไหน กว่าจะถึงทุ่งดอกบัวตองก็เที่ยงเสียแล้ว อากาศดี แต่ที่เทื่ยว ก็มีฝุ่นฟุ้งจากรถขับผ่านถนนเยอะครับ
ภาคเหนืออาจมีรูปจุดแวะเที่ยวน้อยหน่อยครับ เพราะเดินทางเหนื่อย อย่างแม่ฮ่องสอนออก 5.00 ถึงทุ่งดอกบัวตอง 12.00 เหนื่อยมาก นั่งรถเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ส่วนใหญ่เดินทางนั่งแต่รถ เพราะมันอยู่ไกลกันดารมาก ชายแดนส่วนใหญ่ แดดก็แรงมากๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์อีกแบบ ตอนนี้จึงรู้สึกเลยว่าอยากไปที่เที่ยวเดินทางง่ายๆ ก่อนดีกว่าครับ อิอิ
จะอ้วกตลอดทาง พะอืดพะอมมากๆๆๆ ทรมานมาก ไม่เอาอีกแล้ว 555 เหนื่อยจริงครับ
แต่รู้ไหมว่าส่วนที่ดีที่สุด คือการได้ดูทางที่ไปเที่ยวว่าเป็นยังไง เราได้เห็นวิวระหว่างทาง เห็นภูมิประเทศแบบที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยมา ดูแล้วก็นึกไปถึงตอนเรียนภูมิศาสตร์ตอนมัธยมครับ และยังได้เห็นวิธีชีวิตชาวบ้านแถวนั้น แต่เอาจริงๆ ชนบทแถวไหนก็จะคล้ายๆ กัน แต่อาจจะมีแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยเป็นกิมมิก อิอิ
บ้านจ่าโบ
บ้านจ่าโบหมู่บ้านท่องเที่ยวเล็กๆ ที่กำลังดัง เริ่มจากต่างชาติที่เข้ามาเที่ยว เพราะต่างชาติชอบเที่ยวแบบชุมชน แบบโฮมสเตย์ตรงนี้จะมีกางเต้น มีขายของบ้าง มีร้านกาแฟอยู่ 2 ร้าน ร้านนึ่งเด็กดอย ร้านนึ่งมีขายก๋วยเตี๋ยวด้วยนอกจากถ่ายรูปในร้านกาแฟ เดินมาหน่อยก็จะมีจุดชมวิว มีป้ายจุดชมวิวบ้านจ่าโบ ตรงนี้ก็สวยครับ แต่พอดีแพมเวียนหัวนั่งรถนาน รูปเลยไม่ค่อยเยอะ เลยไม่ค่อยถ่ายตัวเอง ถ่ายวิวและภูเขาหัวโล้นครับ
บ้านสันติชล
หมู่บ้านจีน ขี่ม้า นั่งชิงช้าสวรรค์แบบบ้านๆ และของที่ระลึกโดยช่างฝีมือ
สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยมั้ยค่ะ แดดร้อนมาก 55+ หลังจากที่นอนปาย 1 คืน ตื่นเช้ามา เราก็เดินทางกลับสนามบินเชียงใหม่เลย ก่อนจะกลับแพมได้แวะพักทานข้าวตรงนี้ และอีกที่คือบ่อน้ำแร่ แล้วก็กลับสนามบินเลย ออกแต่เช้าสุดๆ ถึงสนามบินมืด เป็นการเดินทางที่เหนื่อยสุดๆ
ทริปนี้ใช้ Panasonic LX100 II พอเรามาถึงประมาณ 9 โมงเช้า ก็สาย แล้วร้อนมากๆ อากาศจะหนาวสุดเฉพาะตอนไม่มีแสงอาทิตย์ และตรงนี้ จะเป็นดินที่ฟุ้งกระจายได้ เมื่อมีรถผ่านไปมา พูดบ้านๆ คือ มันไง่ อิอิ
กิจกรรมจะมีนั่งชิงช้า ขี่ม้า ตอนแพมไปถ่ายรูปม้า รู้สึกสงสารนะ เพราะแดดก็ร้อน แล้วม้าก็มีของเต็มหลังไปหมด สงสาร จะเดินไปเล่นไหนก็ไม่ได้ และต้องแบกของหนักตลอดเวลา
และนอกจากนี้มีขายของที่ระลึก มีให้เช่าชุดถ่ายรูป แพมเดินไปเดินเล่นแปปเดียว กลับมาด้านหน้ามีสวนดอกเก็กฮวยเล็ก สีสันสดใสมาก แพมเคยปลูก แต่ออกดอกมาดอกเดียว แต่ของที่นี่ดอกเยอะมาก
และเพราะร้อนมาก เลยมานั่งกินข้าวมันไก่เบาๆ ตรงร้านข้าวมันไก่มีทางน้ำไหล เป็นลำธารเล็กๆ ไม่รู้ว่าน้ำมาจากไหน แต่ไม่เห็นมีใครลงไปเล่นกัน ตรงนี้มียายนั่งขายถั่วและเมล็ดทานตะวัน ทุกคนไปทานข้าวที่ร้านอาหารหมด ไม่มีใครซื้อยายเลย เราเลยเข้าไปอุดหนุน และเราก็ชอบกินถั่วอยู่แล้ว
และก็รอเพื่อนๆ ทานข้าวที่ร้านอาหาร เราก็เดินทางต่อเลย
ปางอุ๋ง สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ร้อนมากๆ
ปางอุ๋ง เขาว่ากันว่า สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ไปกว่าพันโค้งแต่คุ้ม อย่ามาตั๋วข่อยหลาย ข่อยว่ามันไม่คือ ร้อนมากๆๆๆๆ เป็นเหมือนทุ่งหญ้าสีเขียวเล็กๆ สนามกอล์ฟแถวบ้านยังใหญ่กว่าอีก แล้วเดินทางเหนื่อยๆ แบบมากกกกกก สนามบินก็ไม่มี ลงเชียงใหม่ แล้วออกตั้งแต่ตี 5 ถึงปางอุ๋งตอน 18.00น. ระหว่างทาง โค้งทั้งนั้น เหนื่อยกว่านั่งรถทางกรุงเทพกลับอุบลอีก ทั้งอ้วกไปตามทาง อันนี้คือความเห็นส่วนตัว อย่าดราม่านะ อิอิ มันเป็นแค่ประสบการณ์ของแต่ละคนว่าตรงไหนคุ้มที่จะไป เราไปมาที่อื่น เราว่าที่อื่นคุ้มกว่า ตรงนี้ไม่คุ้มก็แค่นั้น ส่วนคนอื่นเขาคุ้มเขาไปอีกหลายรอบมันก็มีเยอะแยะ คนคิดเหมือนเราก็มีเยอะแยะ จะมาให้คิดเหมือนกันมันเป็นไม่ได้ เอาง่ายๆ เลย แพมว่าตอนนี้เที่ยวใต้สวยสุด และคุ้มกว่า มีทั้งเขา ทั้งน้ำ ทั้งหมอก ถนนดีกว่า ถนนที่ใต้จะตัดไปตามแนวหุบเขา แต่ที่เหนือจะตัดไปตามไหล่เขา
ประเทศไทยที่ไหนๆ มันก็ร้อนเหมือนกันหมดนั่นแหละ แต่รู้ไหมว่า กลางวันที่เหนือร้อนสุด แดดแรงจัดคงเพราะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์กว่า ถ้าอยากได้หนาวๆ ทั้งวัน อีสานยังหนาวกว่านะ หนาาวแบบสั่นเลยแหละ เพราะที่อิสานเป็นแบบมีลมด้วย หรือเขาเรียกว่า Wind chill ส่วนเหนือจะหนาวแบบฉ่ำๆ ในบทความนี้จะพูดอยู่แต่ที่ปางอุ๋ง จริงๆ มันเขียนได้ละเอียดกว่านี้เป็นสิบหน้าก็ได้ แต่ถ้าอยากอ่านไปที่นี่ครับ พิก ทริป – พิก ทริป (pixbotanic.com) เพราะที่เที่ยวมีหลายที่แพมแบ่งแค่พาทตรงนี้เฉพาะปางอุ๋ง บทความที่เขียนไว้ไปกว่า 10 ที่แล้วของแม่ฮ่องสอน ทั้งส่วนเอาและยังไม่เอาลง ส่วนเราได้อะไรจากตรงนี้บ้างมันก็คือประสบการณ์
บางท่านก็บอกว่าเงินไม่พร้อมก็เป็นแบบนี้ ต้องขับรถไปเองถึงจะสวยดูโน่นดูนี่นั่น นั่งรถตู้ก็เป็นแบบนี้แหละ ต้องมีเงินขนาดไหนครับ ถึงจะไปแล้วมีความสุข พอดีบ้านไม่ได้รวย แพมว่ารถตู้นี่แหละสบายสุด มีคนขับให้ รถตู้ไม่ได้นั่งเบียดกันเลย เขาเหยียดกัน ไปนอนทั้งแถวยังได้เลย หลับไป ถึงก็ตื่นมาเที่ยว ง่ายมาก จะไปขับเองให้เหนื่อยทำไมเนาะ
ตั้งแต่ออกจากโรงแรมตีห้า ระหว่างทางผ่านสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ไม่ได้แวะที่เที่ยวไหน กว่าจะถึงทุ่งดอกบัวตองก็เที่ยงเสียแล้ว
ภาคเหนืออาจมีรูปจุดแวะเที่ยวน้อยหน่อยครับ เพราะเดินทางเหนื่อย อย่างแม่ฮ่องสอนออก 5.00 ถึงทุ่งดอกบัวตอง 12.00 เหนื่อยมาก นั่งรถเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ส่วนใหญ่เดินทางนั่งแต่รถ เพราะมันอยู่ไกลกันดารมาก ชายแดนส่วนใหญ่ แดดก็แรงมากๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์อีกแบบ ตอนนี้จึงรู้สึกเลยว่าอยากไปที่เที่ยวเดินทางง่ายๆ ก่อนดีกว่าครับ อิอิ
แต่รู้ไหมว่าส่วนที่ดีที่สุด คือการได้ดูทางที่ไปเที่ยวว่าเป็นยังไง เราได้เห็นวิวระหว่างทาง เห็นภูมิประเทศแบบที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยมา ดูแล้วก็นึกไปถึงตอนเรียนภูมิศาสตร์ตอนมัธยมครับ และยังได้เห็นวิธีชีวิตชาวบ้านแถวนั้น แต่เอาจริงๆ ชนบทแถวไหนก็จะคล้ายๆ กัน แต่อาจจะมีแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยเป็นกิมมิก อิอิ
กลับมาที่ปางอุ๋ง ความเป็นจริงที่นิยมไปกันน่าจะเป็นเรื่องการถ่ายรูปเชคอิน กับเป็น 1 ในสถานที่แนะนำ ทั้งๆ ความเป็นจริงคือ อ่างเก็บน้ำเล็กๆ ที่มีการตกแต่งสถานที่เพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป เพราะอย่างเช่น เขื่อนรัชชประภา อลังการกว่าเยอะ
แต่ที่นี่แปลกกว่าที่อื่น คือ ตอนเมื่อพระอาทิตย์ตก น้ำตอนที่แดดหมดไปแล้ว อากาศจะหนาวขึ้นอย่างรวดเร็ว และหนาวจนน้ำในทุกที่ทั้งทะเลสาบปางอุ๋ง ทะเลสาบหมู่บ้านรักไทย หรือสระว่ายน้ำในโรงแรม จะกลายเป็นไอสีขาวขึ้นมาแปลกตามาก อันนี้สวยจริง คือสวยช่วงเวลานี้แหละ กลางคืนเราจะมีเวลาดื่มด่ำธรรมชาติ และเที่ยวน้อยมาก เพราะต้องรีบหาไรกิน ก่อนที่ร้านอาหารจะปิดกันหมด พอกินเสร็จแล้วให้เราเดินเล่นรอบๆ เพราะถ้าคนหมดจะเปลี่ยวมาก ให้เข้าที่พัก ไปฝอยกันอยู่หน้าห้อง รับอากาศหนาวแทน
แพมไม่ได้พักที่นี่ เพราะไปพักที่บ้านรักไทย แต่ตรงนี้และที่บ้านรักไทยไม่ห่างกันมาก แพมพักที่บ้านรักไทยตอนเช้าก็มาที่ปางอุ๋งเลย ถึงปางอุ๋งประมาณ 9.00 แดดร้อนมาาาาากกกกกก อยู่นี่ประมาณ 30 นาที ก็รีบขึ้นรถไปต่อที่ปายเลย กว่าจะถึงที่พักก็ 18.00 เหมือนกัน พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว เหนื่อยมากๆ อ้วกไปอีกรอบ
หลายคนเวลาจำกัด ที่ไปเที่ยว 3 คืน มันต้องไปหลายที่ เขาจะเก็บให้หมดในรอบเดียว เข้าใจว่าสวยตอนเช้า อ่านมาหมดแล้ว หาข้อมูลมาหมดแล้วก่อนจะไป อันนี้เขาอธิบายถึงตอน 9.00น. ไม่ได้พูดถึงตอนเช้า ตอนเช้าเขาอยู่บ้านรักไทย เพราะตรงโน้นสวยกว่า มีที่เดินเล่นหลากหลายกว่า แล้วก็จะมีรูปบ้านรักไทยสวยๆ อีก จะให้เที่ยวทุกที่ตอนเช้ามืดคงเป็นไปไม่ได้ ทั้งวันมันก็ต้องเที่ยว แล้วกลางวันไม่ต้องเที่ยวเลยหรือไง
บางท่านเห็นว่าบทความนี้เขียนแบบเสียๆ หายๆ ทำให้คนเข้าใจผิด แพมมองกลับกันว่าคนอื่นที่บอกว่าสวยทำให้แพมเข้าใจผิดว่ามันสวยมากกกกก หนาวมากๆๆๆ เหมือนกับสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ทุกอย่างมันคือความคิดเห็นแค่นั้นแหละครับ ไม่มีอะไร เราเขียนเป็นประสบการณ์ที่เราไปเจอ เขียนบอกเล่าเอาฮา อย่าถือสานะ 555+ อยากอ่านให้สนุกมากกว่า สรุปตอนนี้เที่ยวใต้ดีกว่า เพราะที่เหนือหน้าหนาว สนามบินคนล้านแปด ใครว่าเราไม่ได้ไปตอนช่วงหนาวจริงๆ ผิดเลย เราไปวันที่เขาออกข่าวว่าสนามบินคนเยอะ คนแห่เที่ยวเหนือนั้นแหละจ้า หากชอบฝากแชร์หน่อยนะครับ มีที่เที่ยวอีกหลายที่เลย รูปสวยๆ ทั้งนั้น
ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ
Thung Bua Tong Fields at Doi Mae U Kho
ดอยแม่อูคอ
ออกจากโรงแรมที่เชียงใหม่ 5.00
แวะเข้าห้องน้ำที่ ห้วยวังม่วง
ยอดดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาย ไมได้ขึ้นเพราะรถติดหนักข้างบน คนขับถามหลายคนที่ลงมาเช็คล่ะ และเจ้าหน้าที่ด้วย
ถึงแม่แจ่ม 8.00น. อากาศที่นี่หนาวมาก มีแต่หมอกคล้ายๆ กำแพงสีขาว มองไม่ค่อยเห็นทาง แวะทานข้าวที่นี่ อาหารที่สั่งง่ายๆ ข้าวกระเพราหมูกรอบ ร้านอาหารจานเดียวข้างทาง
มาถึงร้าน น้ำดื่มที่นี่ไม่มีแบรนด์เหมือนที่เราเคยกิน เป็นยี่ห้อท้องถิ่น ปกติแล้วน้ำถ้าเป็น RO จะมีคุณภาพเหมือนกัน คือจะจืดสนิท ไม่มีรสชาติเลย แต่น้ำขวดนี้ดูแปล่ง รสชาติเหมือนน้ำแร่ ขวดเราก็ใหม่นะ น้ำดูใสสะอาดดี แต่พอเรามองเข้าไปใกล้ๆ พอดีสายตาดี อิอิ เห็นสารแขวนลอย ก็เลยเข้าใจว่าน่าจะไม่สะอาดเท่าที่ควร ถือว่าเหมือนกินน้ำฝนตามชนบท
สรุปคือ ตอนจ่าย น้ำดื่มฟรีครับ ดีเลย เจ้าของร้านใจดีบอกเอาไปกินด้วยก็ได้
แนะนำสำหรับใครจะขับรถมา ได้เลย เพราะถนนโอเค แต่โค้งเยอะมากกกกกก คนขับคงจะเหนื่อยมาก แพมนั่งอย่างเดียว ปกติไม่ใช่คนเมารถ ยังเวียนหัวหน่อยๆ นั่งกลิ้งไปมา นึกว่าเล่นเครื่องเล่น 555
แดดกว่านี้มีอีกไหม ☀️☀️☀️☀️
ทุ่งดอกบัวตอง
ทางขึ้นผ่านโค้งกว่า 1800+ โค้ง เอาจนเหนื่อยเลย ขนาดนั่งเฉยๆ พอไปถึงที่หมาย คนเยอะมากๆๆๆๆๆ นี้ขนาดเราออกตอนตี 5 แล้ววันนี้เป็นศุกร์ สิ้นเดือนพฤศจิกายน คนมาเที่ยวยังเยอะมาก เอาจริงๆ ว่าในความคิดของแพม มันไม่ค่อยคุ้มเท่าไร่ มาเหนื่อยมากกว่า เพราะแดดก็ร้อนมากด้วย ไม่มีที่หลบแดด ถ้าอากาศไม่มีแดด หนาวสัก 16 องศาจะดีอยู่
นอกจากนี้ถ้าจะให้ถ่ายแล้วสวยๆ จะต้องเดินลงไปข้างล่างสุด แล้วถ่ายขึ้นมาถึงจะสวย แต่ทางลงก็หายากมาก ตอนแรกแพมเดินตามถนนขึ้นไปไม่มีทางลง สรุปทางลงเราต้องเดินย้อนลงไปตามถนน
ดอกบัวตองต้นสูงมาก ไม่เหมือนทุ่งดอกไม้ทั่วไปที่เราจะอยู่ตรงกลางทุ่ง แล้วถ่ายมาสวยๆ เลย เราต้องขึ้นไปที่สูงกว่าต้นมัน ถึงจะเห็นต้นอื่นๆ
เพือนแพมที่มาด้วยกัน ขึ้นไปข้างบนสุดของจุดชมวิว บอกว่าไม่ค่อยสวยเท่าไร่ ถ่ายมาก็ไม่ค่อยเห็นทุ่ง ต้องไปถ่ายข้างล่างเหมือนที่แพมคิดไว้เลย
รีวิวอาจจะไม่ถูกใจหลายๆ คนนะครับ แพมพยายามทำให้แตกต่าง จากความรู้สึกที่แพมได้ไปมาจริงๆ แต่คนอื่นอาจจะคิดว่าคุ้มก็ได้ ลองไปเที่ยวได้ครับ
บ้านรักไทย
หรือหมู่บ้านรักไทย
วันนี้แพมใช้ Panasonic LX100 II อยากลองกล้องใหม่ เซนเซอร์ใหม่ Micro 4/3 20 ล้านพิกเซลที่ให้ภาพสวยกว่ารุ่นเก่าที่ 16 ล้าน ก็เลยหยิบมาใช้เลยจ้า
หมู่บ้านรักไทย หลายคนอยากมาเที่ยวที่นี่ สำหรับแพมไม่คุ้มเท่าไร่ เพราะเดินทางเหนื่อยมากๆๆๆ เลยแนะนำเพื่อนถ้าเป็นไปได้ เที่ยวใกล้ๆ บ้านเราก่อนดีกว่า แต่บางคนก็บอกว่าสวย เพื่อนแพมขับรถมาเที่ยวเองแล้วก็ยังมี แต่แพมนั่งเฉยๆ ยังเหนื่อยเลย ออกจากโรงแรมที่เชียงใหม่ ตี 5.00 ถึงหมู่บ้านรักไทย 18.00 แค่นั่งรถเฉยๆ เหนื่อยมากๆๆๆ ระหว่างเดินทางแค่แวะดอยแม่อูคอชั่วโมงเดียว อาจเป็นเพราะเที่ยวหยุดยาว รถก็เยอะมากๆ ด้วยครับ
บางท่านเห็นว่าบทความนี้เขียนแบบเสียๆ หายๆ ทำให้คนเข้าใจผิด แพมมองกลับกันว่าคนอื่นที่บอกว่าสวยทำให้แพมเข้าใจผิดว่ามันสวยมากกกกก ทุกอย่างมันคือความคิดเห็นแค่นั้นแหละครับ ไม่มีอะไร เราเขียนเป็นประสบการณ์ที่เราไปเจอ เขียนบอกเล่าเอาฮา อย่าถือสานะ 555+ อยากอ่านให้สนุกมากกว่า
รีสอร์ทที่พักไม่ค่อยโอเคเท่าไร่ น้ำอาบไหลเบามากๆ แทบไม่ไหล ทุกอย่างก็ดูเป็นบ้านๆ ตามเกสเฮาส์ ถ้าให้ดาวก็ 0.3 ดาวครับ ดังนั้นถ้าเป็นแพมมาเทื่ยว อย่างน้อยพักที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมจะดูมีมาตรฐานกว่า ฮีตเตอร์ไม่มี แต่อากาศข้างในไม่หนาวมาก เหมือนผนังเก็บความร้อนไว้ ผนังก่อแบบบ้านๆ ไม่มีฉาบเรียบให้สวยงาม ประตูห้องปิดได้ไม่สนิท อิอิ แต่งตัวผู้หญิงอาจจะต้องห่มปิดหน่อย โดยรวมถ้ามาอีกก็ไม่มา
ราคาที่พักคืนละ 1,000.- ราคานี้เป็นที่เที่ยวไม่ได้อิงจากคุณภาพ แต่อิงจากความต้องการของคนมาเที่ยวที่เยอะมาก ก็ถือว่าดีกว่ากางเต้นเนาะ อิอิ
รู้สึกว่าเหมือนตอนเราอาบน้ำ น้ำจากห้องน้ำก็มาทิ้งลงทะเลสาบนี่แหละครับ ทะเลสาบจะมีกลิ่นหน่อยๆ น้ำใส แต่เป็นสีดำ
หมู่บ้านรักไทยเอาจริงๆ ก็เหมือนมีรีสอร์ท ล้อมรอบทะเลสาบ การเที่ยวก็คือ เดินเป็นวงกลมชมทะเลสาบ ซื้อของ กินชาตามร้านที่เอาเข้าจริง ก็มีไม่กี่ร้าน ที่สวยๆ คือรีสอร์ทและร้านค้า ส่วนนอกนั้นก็เป็นบ้านของชาวบ้านที่ดูปกติ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเดินออกนอกทาง
เมื่อเริ่มมืด รีบไปหาข้างกินก่อนที่ร้านจะปิด ร้านที่คนเยอะสุด แน่นอนมันก็เหมือนมีร้านที่ได้อยู่ร้านเดียว คือลีไว ร้านอื่นๆ จะดูธรรมดากว่า
Panasonic LX100 II เซนเซอร์นี้ แพมว่าถ่ายกลางคืนไม่สวยเท่าที่เคยใช้อย่าง Olympus รุ่นก่อนที่ใช้เซนเซอร์ 16 ล้าน หรืออาจจะเป็นเพราะไฟล์ RAW ของแต่ละยี่ห้อมีการเก็บรายละเอียดไม่เหมือนกัน แพมว่าถ่ายจาก Olympus จะดึงสีออกมาได้ดีกว่า
กลางคืนมีจุดเด่นคือ กินหมูกระทะข้างทะเลสาบ ซึ่งมีร้านที่ปิดดึกมากๆ
อีกด้านที่ไม่มีรีสอท มีให้กางเต้นริมน้ำเล็กๆ แต่จริงๆ ตรงนั้นก็เป็นรีสอทนึ่ง เพราะเห็นมีให้เช่าเต้น บริการอาหารอยู่ข้างๆ เต้น
อยากดูดาว แต่ตรงนี้ไม่ค่อยเห็นดาวต่างจากบ้านนอกที่อื่นเท่าไร่ เพราะมีแสงไฟรบกวนอยู่บ้าง อาจจะต้องเดินออกจากแถวทะเลสาบหน่อย แต่แพมเดินไปแล้ว อันตราย เพราะมีหมาเห่า 55+ เลยเดินกลับมา ถ่ายดาวได้นิดหน่อย
มีเพื่อนของพี่ที่รู้จักกันบอกที่นี่บางทีเสียงคุยกันดังทั้งคืนจนมันเช็คเอ้าออกกลางดึกลงมานอนในเมืองมั้งครั้งนั้น ใช่เลย 55+ ห้องมันเล็กๆ เอง แล้วมีบางกลุ่มก็ไปนั่งกินเหล้าหน้าห้องกัน เอาจริงๆ กลุ่มในทริปแพมนี่แหละ แต่แพมกินแอลกอฮอล์ไม่เป็นสักอย่างเลย เลยมานอน กำลังจะหลับ มีคนขึ้นมาด่าเลยจ้า 555+
เคยเห็นหมอกในน้ำไหม
แพมเพิ่งเห็นครั้งแรก ตื่นเช้ามา จะเห็นหมอกเต็มทะเลสาบเลย จริงๆ มันเริ่มมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มืดแล้ว แต่ตอนเช้าจะเยอะสุด แล้วก็จะหายไปตอนแสงอาทิตย์มา เมื่อสว่างแล้ว รถจะเยอะหน่อย เราจะต้องคอยหลีกรถ ฝุ่นก็จะเยอะจากรถที่วิ่งไปมา หรือที่เรียกว่ามันไง่นั่นเอง 555+
ตรงนี้จะดูพระอาทิตย์ขึ้นไม่ได้นะ เพราะมันอยู่ที่ต่ำ จะเห็นดวงอาทิตย์ก็คือฟ้าสว่างเต็มที่แล้ว ถ้าจะดูต้องไปอยู่ที่สูงๆ
สิ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี่คือ ชา ทุกๆ ร้านจะมีชิมชาฟรี เราเข้าทานข้าวร้านไหน แจ้งเขาได้เลยมีชิมชาฟรีไหม เขาจะมาเสิร์ฟให้เลยครับ แพมเลยขอมาอันนึ่ง
เที่ยวแม่ฮ่องสอน จากเชียงใหม่
คืนแรกแพมพักที่เชียงใหม่ พักโรงแรม มีกลิ่นจากท่อระบายน้ำทิ้งทั้งคืนเลย แต่ที่ชอบคือรายละเอียดของใช้ส่วนตัวเขาทำออกมาดี เจลอาบน้ำ คุณภาพดีนะ กลิ่นดูไทยๆ ดี แตกต่างจากที่อื่น กลิ่นเจลอาบน้ำอีกอันก็สดชื่น ไม่หอมเหม็นคลุ้ง แพมคอนเฟิร์ม อิอิ ถ้าให้ดีต้องใช้สกินแคร์ของแพม 55
มาถึงปาย ออกแต่เช้า มีแวะข้างทางบ้างที่นึ่งคือบ้านจ่าโบ แล้วก็ขับยาวๆ เลย กว่าจะถึงปายก็ 17.00 คือแบบว่านั่งรถเหนื่อยมาก มีคนอ้วกด้วย ขนาดพี่เขาเที่ยวแบบมืออาชีพนะ แล้วขากลับเชียงใหม่เห็นพี่เขาบอก จะเหนื่อยกว่านี้อีก ทางไปยากกว่า
พอถึงปายก็นอนที่พักอย่างเดียว ไม่ได้ไปไหน มีไปถนนคนเดิน คนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ ร้านอาหารคนเต็มเลย
เพื่อนๆ พัก ภูริปาย แพมแนะนำเลยวิวสวยมากๆๆๆๆ แพมได้เข้าไปถ่ายรูปหน่อย ไม่ได้นอนตรงนี้เพราะเขานอนหลายคน แบบเช่าบ้านเป็นหลัง ตรงนี้กลางคืนเห็นดาวได้สบายๆ เลย ไม่รู้ว่าเขาจะปิดไฟมืดไหมนะ แต่คิดว่าไม่มืดมาก เพราะตรงนี้ก็มีบ้านพักหลายหลังอยู่ แต่ก็มืดพอที่จะเห็นดาวเต็มฟ้าได้เลย คิดว่า
แต่แพมอยากพักผ่อนหน่อย เลยนอนที่โรงแรม B2 ในเมือง
มีอารมณ์ว่ายน้ำตอนอุณหภูมิ 20 องศา🥶🥶🥶 เพราะเที่ยวไหนไม่ได้ นอกจากถนนคนเดินตอนกลางคืน ซึ่งแพมไม่ค่อยชอบเท่าไร่ มันก็เหมือนเดินตลาดแหละนะ แถวบ้านเราก็มี เอาจริงๆ เป็นคนไม่ชอบเดินตลาด เดินห้าง ถ้าไม่มีอะไรต้องซื้อจริงๆ ชอบสั่ง shopee มากกว่า อิอิ
ถามเจ้าหน้าที่ต้อนรับของโรงแรม ก็บอกว่าที่นี่ไม่ไปไหนไม่ได้ Grab ก็ไม่มี จะไปไหนก็ต้องเหมามอไซต์ไป มาเที่ยวที่ปายต้องมีรถส่วนตัวอย่างเดียว พรุ่งนี้เช้าก็อยากดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หยุนไหล ก็ไม่สะดวก ต้องหามอไซต์ไปตอนตี 4 จะไปหาที่ไหน 555+ แล้วพอไปหยุนไหล ก็ต้องจ้างรถชาวบ้านขึ้นไปอีก ซึ่งไปคนเดียวไม่ปลอดภัย และกลางคืนด้วย เลยไม่ได้ไปไหนเลยครับ
ที่พัก ห้องน้ำเซ็กซี่มาก อิอิ
นอกนั้นก็ไม่ได้ไปไหน พรุ่งนี้เช้ากลับเชียงใหม่ สำหรับแพมถือว่ามานั่งรถเล่น พอแล้วทริปเหนือ เหนื่อยเกินไป ไม่ได้ชมทะเลหมอก ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้น ไม่ได้ไปชมธรรมชาติสวยๆ ด้วยข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาด้วยแหละ
บ้ายๆ จบล่ะ พรุ่งนี้บินกลับกรุงเทพครับ
ภูริปาย วิลล่า
โรมแรมวิวสวยสุดหรู รีสอร์ทท่ามกลางหุบเขา จริงๆ แล้ว เพื่อนๆ พักที่นี่ แต่แพมพักในเมือง เพราะไม่อยากพักผ่อนเป็นส่วนตัวมากกว่า เป็นบ้านที่อยุ่กันหลายคน และราคาที่พักที่นี่ค่อนข้างสูงด้วย แพมไปพักโรงแรม 4 ดาว นอนคนเดียวเพียงคืนละ 600.- บาทเอง
ดังนั้น ระหว่างที่มาส่งเพื่อนๆ ลงที่นี่ ก่อนเข้าโรงแรมที่ในปาย ก็เลยขอถ่ายรูปสักหน่อย พักแค่ 1 คืน เราก็มารับเพื่อนอีกครั้งที่ภูริปาย ในตอนเช้าๆ มาดูบรรยากาศสวยๆ ถ่ายรูปอีกรอบ
Leave a Reply