AHA คนผิวแพ้ง่ายไม่ค่อยถูกกับสิ่งนี้เพราะระคายเคืองผิวมาก ส่วน BHA อาจจะให้ความระคายเคืองผิวเล็กน้อย ไม่มากเท่า AHA แต่ผู้ที่ใช้เครื่องสำอางผสม AHA และ BHA เป็นประจำเป็นเวลานาน เพื่อหวังผลไม่ให้ผิวหน้าเหี่ยวย่น หน้าขาวหรือหน้าใส อาจจะส่งผลในทางตรงกันข้ามก็เป็นได้ เพราะธรรมชาติของผิวหนังที่ได้รับการกระตุ้นบ่อยเกินไป ทำให้เซลผิวชะงักและชะลอการสร้างเซลใหม่
และสารนี้ไม่เหมาะสำหรับใช้กับผิวหนังคนเอเชียและคนผิวคล้ำดำ เพราะอาจทำให้ผิวเกิดรอยด่างดำ และทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอได้
AHA BHA มาจากไหน
AHA เป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติ ซึ่งสารที่ได้จะออกมาในลักษณะกรดต่างๆ เช่น กรดซิตริก กรดแล็กติก กรดทาร์ทาลิก ซึ่งสกัดออกมาให้มีความเข้มข้นสูง แต่เวลาที่ผู้ผลิตเอาไปใช้ก็จะมีการกำหนดการใส่เป็น % ที่แตกต่างกันออกไป
BHA เป็นสารที่ถูกสังเคราะห์ขึ้น โดยจะออกมาในรูปแบบกรดเหมือนกัน ซึ่ง BHA ที่เรารู้จักกันดีก็คือสาร Salicylic นั้นเอง ซึ่งเป็นกรดที่นิยมเป็นส่วนผสมในครีมรักษาสิว เพราะสามารถละลายในน้ำมัน และซึมเข้าไปในรูขุมขน ทำให้หัวสิวละลายออกมา
ความเข้มข้นของสาร
AHA นิยมผสมลงไปที่ประมาณ 3-12% ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเหมาะกับสภาพผิวของทุกคน ส่วนปริมาณที่มีความเข้มข้นสูงตั้งแต่ 20–70% จะนำไปใช้กับวิธีลอกผิว และต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
BHA นั้นจะผสมกรด Salicylic ที่ประมาณ 1-2% เท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วผิวเราก็สามารถทนต่อความเข้มข้นที่สูงกว่านี้ได้ แต่ความเข้มข้นที่สูงๆนั้นจะใช้ในการรักษาโรคผิวหนังมากกว่า และต้องถูกใช้โดยเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
การละลายในผิวหน้า
AHA ละลายได้ดีในน้ำ สามารถออกฤทธิ์ที่บริเวณผิวหนังชั้นบนหรือชั้นหนังกำพร้าได้ดี ส่วน BHA นั้นละลายในไขมันหรือน้ำมันได้ดี เพราะมันสามารถเข้าไปลึกถึงผิวชั้นล่าง เข้าไปขจัดสิ่งอุดตันที่อยู่ในรูขุมขน ซึ่งมีต่อมไขมันอยู่เป็นแสนๆต่อมได้เป็นอย่างดี
การระคายเคือง
AHA จะระคายเคืองผิวมากกว่า BHA โดยจะสังเกตได้ว่าคนส่วนใหญ่จะแพ้ AHA กันมาก ถ้าลองหาข้อมูลจากในเว็บบอร์ดต่างๆ จะเห็นได้บ่อยๆ ยิ่งคนที่ผิวแพ้ง่ายนั้นจะไม่เหมาะกับการใช้ AHA เป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่ BHA น้อยคนที่จะแพ้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีนะ มีแต่ก็ไม่มากเท่า AHA นั่นเอง
การผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA
Alpha Hydroxy Acids หรือ AHSs คือ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกจากชั้นผิวหนัง และเผยผิวที่มีสุขภาพดีออกมา การใช้ AHA ที่มีความเข้มข้นสูงและใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อชั้นผิวที่อยู่ลึกลงไป สารกลุ่มนี้มักจะอยู่ในครีมหน้าขาวผิวขาว แต่ไม่ได้ช่วยลดการสร้างเม็ดสีโดยตรง ช่วยเร่งการหลุดลอกของผิวชั้นนอก ทำให้ดูขาวขึ้นเท่านั้น และอาจเกิดผลข้างเคียง เมื่อใช้เป็นเวลานาน
ทำให้ผิวบาง
กรด AHA ในปริมาณความเข้มข้นสูง ช่วยขจัดเซลล์ผิวแก่ๆ ให้หลุดลอกเร็วขึ้น ทำให้เซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ ให้ผิวหนังดูเรียบเนียน สดใสขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็อาจทำให้ผิวหน้าของเรานั้นบางเกินไป ไวต่อแสงแดด ระคายเคือง และเกิดผื่นคันได้
ทำให้ผิวอ่อนแอ เกิดริ้วรอย
ใช้ AHA บ่อยเกินไป ทำลายเซลล์ผิวชั้นนอกสุด ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องเซลล์ผิวชั้นล่างๆ รักษาความชุ่มชื้น ป้องกันการติดเชื้อ ต่อต้านมลภาวะ โดยเฉพาะแสงยูวี อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวเรานั้นอ่อนแอ เกิดมะเร็งและริ้วรอย